พันธบัตรรัฐบาล คืออะไร: คู่มือเจาะลึกทุกแง่มุม สำหรับนักลงทุนมือใหม่ในไทย

บทนำ: ทำไมต้องสนใจ “พันธบัตรรัฐบาล”

ในยุคที่ตลาดการลงทุนเต็มไปด้วยความไม่แน่นอน นักลงทุนทุกประเภทต่างมองหาทางเลือกที่มั่นคงและให้ผลตอบแทนอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งพันธบัตรรัฐบาลถือเป็นตัวเลือกที่โดดเด่นและตอบโจทย์นี้ได้ดีเยี่ยม แม้หลายคนจะเคยได้ยินชื่อนี้บ่อยๆ แต่ก็อาจยังสงสัยว่ามันคืออะไร ทำงานอย่างไร มีข้อดีอะไรบ้าง และเริ่มลงทุนยังไง โดยเฉพาะในสถานการณ์เศรษฐกิจไทย บทความนี้จะช่วยไขข้อข้องใจให้คุณเข้าใจลึกซึ้ง เพื่อนำไปใช้ในการวางแผนการเงินได้อย่างมั่นใจมากขึ้น

illustration of a person confidently choosing a stable investment option among volatile ones in a financial landscape

พันธบัตรรัฐบาล คืออะไร: ความหมายและหลักการพื้นฐาน

พันธบัตรรัฐบาลคือตราสารหนี้ที่รัฐบาลออกมาเพื่อรวบรวมเงินทุนจากประชาชนหรือองค์กรต่างๆ ไปใช้ในการพัฒนาชาติ จัดการงบประมาณที่ขาดดุล หรือดูแลหนี้สาธารณะให้สมดุล สรุปสั้นๆ ก็คือ รัฐบาลกำลังยืมเงินจากนักลงทุน โดยใช้พันธบัตรเป็นเอกสารรับรองหนี้สินนั้น

เมื่อคุณซื้อพันธบัตร คุณจะกลายเป็นเจ้าหนี้ของรัฐบาล ซึ่งรัฐบาลในฐานะผู้กู้ต้องรับผิดชอบจ่ายดอกเบี้ยตามอัตราที่ตกลงไว้ และคืนเงินต้นเมื่อถึงวันไถ่ถอน เพื่อให้ภาพชัดเจนยิ่งขึ้น ลองนึกถึงการกู้ยืมจากธนาคาร แต่คราวนี้ผู้กู้คือรัฐบาลเอง

illustration of government buildings with money flowing from citizens into a national fund represented by bonds

ใครคือผู้ให้กู้และผู้กู้

สำหรับพันธบัตรรัฐบาล ผู้ให้กู้คือผู้ซื้อพันธบัตร ไม่ว่าจะเป็นบุคคลทั่วไป สถาบันการเงิน หรือแม้กระทั่งธนาคารกลาง ขณะที่ผู้กู้คือรัฐบาล โดยในไทยนั้น กระทรวงการคลัง เป็นหน่วยงานหลักที่รับผิดชอบการออกและจัดการพันธบัตรเหล่านี้ ทำให้กระบวนการทั้งหมดโปร่งใสและน่าเชื่อถือ

กลไกการทำงานของพันธบัตรรัฐบาล: ดอกเบี้ย ราคา และอายุ

เพื่อให้เข้าใจการลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลอย่างถ่องแท้ คุณควรรู้จักกลไกหลักๆ ที่ขับเคลื่อนมัน ซึ่งประกอบด้วยองค์ประกอบสำคัญหลายอย่างที่เชื่อมโยงกันอย่างแนบแน่น

  • อัตราดอกเบี้ยหน้าตั๋ว (Coupon Rate): นี่คืออัตราดอกเบี้ยที่รัฐบาลรับประกันว่าจะจ่ายให้เจ้าของพันธบัตรเป็นประจำ เช่น ทุกสามเดือน หกเดือน หรือปีละครั้ง โดยระบุชัดเจนบนเอกสารพันธบัตร
  • มูลค่าหน้าตั๋ว (Face Value/Par Value): คือยอดเงินต้นที่รัฐบาลจะจ่ายคืนเมื่อพันธบัตรครบกำหนด ซึ่งมักเป็นมูลค่าคงที่ที่นักลงทุนทราบล่วงหน้า
  • อัตราผลตอบแทน ณ วันที่ซื้อ (Yield to Maturity – YTM): ค่านี้แสดงผลตอบแทนรวมที่คุณจะได้ หากถือพันธบัตรจนครบกำหนด โดยคำนวณจากราคาซื้อ ดอกเบี้ยที่ได้รับ และมูลค่าหน้าตั๋ว เพื่อให้คุณเห็นภาพรวมของกำไรที่คาดหวัง
  • ความสัมพันธ์ระหว่างราคาและอัตราดอกเบี้ย (Price-Yield Relationship): ในตลาดรอง ราคาพันธบัตรจะปรับตัวตรงข้ามกับอัตราดอกเบี้ยตลาด ถ้าดอกเบี้ยตลาดพุ่งสูง ราคาพันธบัตรก็จะร่วงลง ในทางตรงกันข้าม ถ้าดอกเบี้ยลด ราคาก็จะขึ้น ซึ่งเป็นหลักการพื้นฐานที่นักลงทุนต้องจับตา
  • อายุของพันธบัตร: พันธบัตรมีอายุหลากหลายรูปแบบ ตั้งแต่สั้นๆ ไม่เกินปี กลางๆ หนึ่งถึงสิบปี ไปจนถึงยาวเกินสิบปี โดยพันธบัตรอายุยาวมักให้ดอกเบี้ยสูงกว่า เพื่อชดเชยความไม่แน่นอนจากอัตราดอกเบี้ยที่อาจเปลี่ยนแปลง
illustration of a hand holding a government bond receiving regular small payments from a government entity

ประเภทของพันธบัตรรัฐบาลที่ควรรู้

พันธบัตรรัฐบาลแบ่งออกเป็นหลายประเภท ตามลักษณะและจุดประสงค์การออก ซึ่งช่วยให้เหมาะกับนักลงทุนที่หลากหลาย

  • ตามอัตราดอกเบี้ย:
    • พันธบัตรอัตราดอกเบี้ยคงที่ (Fixed-rate Bonds): จ่ายดอกเบี้ยในอัตราคงที่ตลอดอายุพันธบัตร ทำให้คาดการณ์ผลตอบแทนได้ง่าย เหมาะสำหรับผู้ที่ชอบความแน่นอน
    • พันธบัตรอัตราดอกเบี้ยลอยตัว (Floating-rate Bonds): ดอกเบี้ยปรับตามอัตราอ้างอิงในตลาด เช่น อัตราดอกเบี้ยนโยบาย ซึ่งช่วยลดผลกระทบจากความผันผวนของดอกเบี้ย
  • ตามกลุ่มเป้าหมาย:
    • พันธบัตรรัฐบาลออมทรัพย์ (Savings Bonds): ออกมาเพื่อประชาชนทั่วไปโดยเฉพาะ ทำให้การลงทุนเข้าถึงง่าย ด้วยขั้นต่ำไม่สูงและขั้นตอนไม่ยุ่งยาก
    • พันธบัตรทั่วไป (General Bonds): มุ่งเป้าไปที่นักลงทุนสถาบัน เช่น ธนาคาร กองทุนรวม หรือบริษัทประกัน ที่ต้องการปริมาณใหญ่
  • ตามเงื่อนไขพิเศษ:
    • พันธบัตรชดเชยเงินเฟ้อ (Inflation-linked Bonds): มูลค่าเงินต้นและดอกเบี้ยปรับตามอัตราเงินเฟ้อ เพื่อปกป้องกำลังซื้อของนักลงทุน โดยเฉพาะในช่วงเศรษฐกิจที่เงินเฟ้อพุ่ง
    • พันธบัตรประหยัดพลังงาน (Green Bonds): ระดมทุนสำหรับโครงการรักษาสิ่งแวดล้อม เช่น พลังงานหมุนเวียน ซึ่งดึงดูดนักลงทุนที่ใส่ใจความยั่งยืน

ทำไมต้องลงทุนในพันธบัตรรัฐบาล? ข้อดีและข้อเสีย

ก่อนตัดสินใจลงทุน สิ่งสำคัญคือต้องชั่งน้ำหนักข้อดีและข้อเสียของพันธบัตรรัฐบาล เพื่อให้เหมาะกับเป้าหมายการเงินของคุณ

ข้อดี (Pros)

  • ความปลอดภัยสูง: ถือเป็นสินทรัพย์ที่เสี่ยงน้อยที่สุดในตลาด เพราะรัฐบาลสามารถเก็บภาษีหรือพิมพ์เงินได้ ทำให้โอกาสผิดนัดชำระแทบไม่มี โดยเฉพาะในประเทศที่มีเสถียรภาพอย่างไทย
  • ผลตอบแทนสม่ำเสมอ: คุณจะได้รับดอกเบี้ยตามกำหนด ทำให้มีรายได้ประจำที่วางแผนได้ล่วงหน้า เหมาะสำหรับผู้เกษียณหรือคนที่ต้องการกระแสเงินสดคงที่
  • สภาพคล่องสูง: สามารถซื้อขายในตลาดรองได้ง่าย หากต้องการเงินด่วน คุณไม่จำเป็นต้องรอครบกำหนด
  • การกระจายความเสี่ยง (Diversification): การเพิ่มพันธบัตรลงในพอร์ตจะช่วยลดความผันผวนจากสินทรัพย์เสี่ยงสูงอย่างหุ้น เพราะราคามักเคลื่อนไหวตรงข้ามกัน

ข้อเสีย (Cons)

  • ผลตอบแทนต่ำ: เมื่อเทียบกับหุ้นหรือหุ้นกู้เอกชน ผลตอบแทนจากพันธบัตรรัฐบาลมักต่ำกว่า เพราะเน้นความมั่นคงมากกว่ากำไรสูง
  • ความเสี่ยงจากอัตราดอกเบี้ย: ถ้าดอกเบี้ยตลาดขึ้น ราคาพันธบัตรในตลาดรองก็จะลง หากขายก่อนกำหนด อาจต้องรับขาดทุน
  • ความเสี่ยงจากเงินเฟ้อ: ถ้าเงินเฟ้อสูงกว่าดอกเบี้ยที่ได้ กำลังซื้อของคุณอาจลดลง แม้พันธบัตรชดเชยเงินเฟ้อจะช่วยแก้ปัญหานี้ได้

พันธบัตรรัฐบาลในบริบทของเศรษฐกิจไทย

ในระบบเศรษฐกิจไทย พันธบัตรรัฐบาลไม่ได้เป็นแค่เครื่องมือลงทุน แต่ยังมีบทบาทสำคัญที่เชื่อมโยงกับนโยบายต่างๆ

  • การบริหารหนี้สาธารณะและนโยบายการคลัง: กระทรวงการคลัง ใช้พันธบัตรเพื่อระดมทุนลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน เช่น ถนนหรือระบบขนส่ง ซึ่งช่วยขับเคลื่อนการเติบโตทางเศรษฐกิจ
  • เครื่องมือของนโยบายการเงิน: ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ใช้การซื้อขายพันธบัตรในตลาดรองเพื่อปรับสภาพคล่องและกำหนดทิศทางดอกเบี้ยระยะสั้น ให้สอดคล้องกับเป้าหมายควบคุมเงินเฟ้อ
  • ผลกระทบต่อตลาดการเงิน: อัตราผลตอบแทนพันธบัตรเป็นเกณฑ์อ้างอิงสำหรับสินทรัพย์อื่นๆ เช่น ดอกเบี้ยสินเชื่อธนาคารหรือหุ้นกู้เอกชน ทำให้ส่งผลต่อต้นทุนการเงินโดยรวม
  • การส่งเสริมการออมและการลงทุน: โดยเฉพาะพันธบัตรออมทรัพย์ที่เปิดโอกาสให้ประชาชนทั่วไปมีส่วนร่วมในการออมอย่างปลอดภัย สนับสนุนวัฒนธรรมการเงินที่เข้มแข็ง

วิธีการซื้อพันธบัตรรัฐบาลในประเทศไทย

สำหรับนักลงทุนไทย การเข้าถึงพันธบัตรรัฐบาลไม่ยาก คุณสามารถเลือกซื้อในตลาดแรกหรือตลาดรอง ขึ้นอยู่กับความสะดวก

ตลาดแรก (Primary Market)

ที่นี่คือการซื้อพันธบัตรใหม่จากรัฐบาลโดยตรง โดยเฉพาะพันธบัตรออมทรัพย์ที่เปิดให้ประชาชนจองผ่านธนาคารตัวแทน เช่น ธนาคารกรุงไทย (Krungthai Bank), ธนาคารกรุงเทพ (Bangkok Bank), ธนาคารกสิกรไทย (Kasikornbank), ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB), ธนาคารทหารไทยธนชาต (ttb) และธนาคารอื่นๆ ที่ได้รับมอบหมาย กระทรวงการคลังจะประกาศกำหนดการและเงื่อนไขล่วงหน้า ดังนั้นควรติดตามผ่านเว็บไซต์กระทรวงหรือธนาคารเหล่านี้

ตลาดรอง (Secondary Market)

สำหรับพันธบัตรที่ออกไปแล้ว คุณสามารถซื้อขายระหว่างนักลงทุนผ่านธนาคารหรือบริษัทหลักทรัพย์ ราคาจะขึ้นลงตามตลาด อาจสูงหรือต่ำกว่ามูลค่าหน้าตั๋ว ขึ้นกับสถานการณ์ดอกเบี้ย ซึ่งให้ความยืดหยุ่นมากกว่า

เอกสารที่จำเป็น

การซื้อส่วนใหญ่ต้องการบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์หรือบัญชีธนาคารที่เชื่อมโยง พร้อมบัตรประชาชนและสมุดบัญชี เพื่อยืนยันตัวตนและทำธุรกรรมได้รวดเร็ว

การเปรียบเทียบ: พันธบัตรรัฐบาลกับสินทรัพย์ลงทุนอื่น ๆ

เพื่อช่วยให้คุณตัดสินใจได้ชัดเจนยิ่งขึ้น ลองมาดูการเปรียบเทียบพันธบัตรรัฐบาลกับทางเลือกยอดนิยมอื่นๆ ในตลาดไทย

  • กับหุ้น (vs. Stocks): พันธบัตรให้ความเสี่ยงต่ำและผลตอบแทนคงที่ แต่ต่ำกว่าหุ้นที่ผันผวนมากกว่าและมีโอกาสกำไรสูง หากคุณทนความเสี่ยงได้ หุ้นอาจเหมาะกว่า แต่พันธบัตรช่วยสมดุลพอร์ต
  • กับหุ้นกู้ภาคเอกชน (vs. Corporate Bonds): หุ้นกู้จากบริษัทเอกชนเสี่ยงเครดิตมากกว่า ขึ้นกับฐานะบริษัท จึงให้ผลตอบแทนสูงกว่าเพื่อล่อใจนักลงทุน ในขณะที่พันธบัตรรัฐบาลมั่นคงกว่า
  • กับกองทุนรวม (vs. Mutual Funds): กองทุนรวมรวมเงินจากหลายคนไปลงทุนหลากหลาย โดยมีผู้เชี่ยวชาญจัดการ กองทุนตราสารหนี้อาจรวมพันธบัตรรัฐบาลและหุ้นกู้ ช่วยกระจายความเสี่ยงแต่มีค่าธรรมเนียมเพิ่ม
  • กับ P2P Lending (vs. P2P Lending): การกู้ยืมแบบ peer-to-peer เสี่ยงสูงเพราะให้กู้บุคคลหรือธุรกิจเล็กๆ โดยตรง มีโอกาสผิดนัดมาก แม้ผลตอบแทนสูง แต่พันธบัตรรัฐบาลปลอดภัยกว่าสำหรับมือใหม่

สรุปแล้ว พันธบัตรรัฐบาลเหมาะเป็นฐานรากของพอร์ตลงทุน เพื่อความมั่นคงในระยะยาว โดยเฉพาะเมื่อรวมกับสินทรัพย์อื่นๆ

ภาษีที่เกี่ยวข้องกับการลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลในประเทศไทย

การลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลในไทยต้องคำนึงถึงภาษี เพื่อไม่ให้กำไรที่ได้ถูกหักมากเกินไป

  • ภาษีดอกเบี้ย: ดอกเบี้ยจากพันธบัตรถูกหักภาษี ณ ที่จ่าย 15% สำหรับบุคคลธรรมดา คุณสามารถเลือกนำไปรวมคำนวณภาษีเงินได้สิ้นปี หรือให้หัก ณ ที่จ่ายเป็นภาษีสุดท้าย เพื่อความสะดวก
  • ภาษีกำไรจากทุน (Capital Gains Tax): กำไรจากการขายพันธบัตรในตลาดรองสำหรับบุคคลธรรมดาได้รับการยกเว้นภาษีในปัจจุบัน ทำให้เป็นทางเลือกที่น่าดึงดูด

อย่างไรก็ตาม กฎภาษีอาจเปลี่ยนตามนโยบาย ดังนั้นควรตรวจสอบข้อมูลล่าสุดจาก กรมสรรพากร หรือปรึกษาที่ปรึกษาภาษีเพื่อความแม่นยำ

สรุป: พันธบัตรรัฐบาลกับการวางแผนการเงินของคุณ

พันธบัตรรัฐบาลไม่ใช่แค่เครื่องมือที่รัฐใช้ระดมทุนเพื่อพัฒนาประเทศ แต่ยังเป็นทางเลือกการลงทุนที่มั่นคงสำหรับนักลงทุนที่ต้องการผลตอบแทนแน่นอน แม้จะไม่หวือหวาเท่าสินทรัพย์เสี่ยงสูง แต่ความปลอดภัยและสภาพคล่องทำให้มันเป็นส่วนสำคัญในการกระจายความเสี่ยงของพอร์ต

เมื่อคุณเข้าใจกลไก ประเภท วิธีซื้อ ข้อดีข้อเสีย ผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทย และเรื่องภาษี คุณจะสามารถนำพันธบัตรรัฐบาลไปใช้ในแผนการเงินได้อย่างชาญฉลาด สร้างความมั่งคั่งที่ยั่งยืนในอนาคต

คำถามที่พบบ่อย

พันธบัตรรัฐบาลออมทรัพย์ คืออะไร และซื้อได้ที่ไหนในประเทศไทย?

พันธบัตรรัฐบาลออมทรัพย์เป็นพันธบัตรที่รัฐบาลออกเพื่อให้นักลงทุนรายย่อยทั่วไปสามารถเข้าถึงได้ง่าย มักมีวงเงินขั้นต่ำในการซื้อไม่สูง และมีเงื่อนไขการจองซื้อที่ไม่ซับซ้อน สามารถซื้อได้ผ่านธนาคารพาณิชย์ที่เป็นตัวแทนจำหน่าย เช่น ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารกรุงไทย ธนาคารกสิกรไทย และธนาคารไทยพาณิชย์ โดยจะมีการประกาศช่วงเวลาเปิดจองซื้อล่วงหน้า

การลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลมีความเสี่ยงอะไรบ้างที่นักลงทุนไทยควรรู้?

แม้จะมีความปลอดภัยสูง แต่พันธบัตรรัฐบาลก็ยังมีความเสี่ยงบางประการที่นักลงทุนไทยควรรู้:

  • ความเสี่ยงด้านอัตราดอกเบี้ย: หากอัตราดอกเบี้ยในตลาดสูงขึ้น ราคาพันธบัตรในตลาดรองจะลดลง
  • ความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อ: หากเงินเฟ้อสูงกว่าผลตอบแทนที่ได้รับ กำลังซื้อที่แท้จริงจะลดลง
  • ความเสี่ยงด้านสภาพคล่อง (สำหรับบางรุ่น): แม้โดยรวมสภาพคล่องจะสูง แต่พันธบัตรบางรุ่นที่มีปริมาณการซื้อขายน้อย อาจหาผู้ซื้อได้ยากในตลาดรอง

ผลตอบแทนจากพันธบัตรรัฐบาลต้องเสียภาษีอย่างไรในประเทศไทย?

ดอกเบี้ยที่ได้รับจากพันธบัตรรัฐบาลจะถูกหักภาษี ณ ที่จ่าย 15% สำหรับบุคคลธรรมดา ผู้ลงทุนสามารถเลือกให้เป็นการเสียภาษีขั้นสุดท้าย หรือนำไปรวมคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาตอนสิ้นปีได้ ส่วนกำไรจากการขายพันธบัตรรัฐบาลในตลาดรองสำหรับบุคคลธรรมดา ปัจจุบันได้รับการยกเว้นภาษี

พันธบัตรรัฐบาลต่างจากหุ้นกู้ภาคเอกชนอย่างไร?

พันธบัตรรัฐบาลออกโดยรัฐบาล มีความเสี่ยงด้านเครดิตต่ำที่สุด ส่วนหุ้นกู้ภาคเอกชนออกโดยบริษัทเอกชน ซึ่งมีความเสี่ยงด้านเครดิตสูงกว่า (ขึ้นอยู่กับความน่าเชื่อถือของบริษัท) จึงมักให้ผลตอบแทนที่สูงกว่าเพื่อชดเชยความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้น

ธนาคารไหนเป็นตัวแทนจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลบ้าง?

ธนาคารพาณิชย์หลักๆ ที่มักเป็นตัวแทนจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาล โดยเฉพาะพันธบัตรรัฐบาลออมทรัพย์ ได้แก่ ธนาคารกรุงไทย, ธนาคารกรุงเทพ, ธนาคารกสิกรไทย, ธนาคารไทยพาณิชย์, ธนาคารทหารไทยธนชาต (ttb) และธนาคารออมสิน เป็นต้น

ถ้าต้องการขายพันธบัตรรัฐบาลก่อนครบกำหนด ต้องทำอย่างไร?

หากต้องการขายพันธบัตรรัฐบาลก่อนครบกำหนดไถ่ถอน ผู้ลงทุนสามารถทำได้ในตลาดรอง โดยติดต่อธนาคารหรือบริษัทหลักทรัพย์ที่ตนเองมีบัญชีซื้อขายอยู่ ราคาขายจะขึ้นอยู่กับราคาตลาด ณ ขณะนั้น ซึ่งอาจสูงกว่าหรือต่ำกว่ามูลค่าหน้าตั๋ว ขึ้นอยู่กับภาวะอัตราดอกเบี้ยในตลาด

พันธบัตรรัฐบาลมีผลต่ออัตราดอกเบี้ยเงินกู้ซื้อบ้านอย่างไร?

อัตราผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลระยะยาวมักถูกใช้เป็นอัตราอ้างอิงสำคัญในตลาดการเงิน หากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลปรับตัวสูงขึ้น อาจส่งผลให้ต้นทุนทางการเงินของธนาคารสูงขึ้น และนำไปสู่การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ซื้อบ้านและสินเชื่ออื่นๆ ได้ในอนาคต

นักลงทุนรายย่อยควรเริ่มต้นลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลอย่างไร?

นักลงทุนรายย่อยควรเริ่มต้นจากการศึกษาข้อมูลพันธบัตรรัฐบาลออมทรัพย์ที่กระทรวงการคลังจะออกจำหน่ายเป็นครั้งคราว ติดตามประกาศจากธนาคารตัวแทนจำหน่าย เปิดบัญชีกับธนาคารที่ร่วมโครงการ และจองซื้อตามรอบที่เปิดให้จอง ซึ่งเป็นวิธีที่ง่ายและเข้าถึงได้มากที่สุด

กระทรวงการคลังออกพันธบัตรชุดใหม่เมื่อไหร่ และดูข้อมูลได้จากที่ไหน?

กระทรวงการคลังจะประกาศแผนการออกพันธบัตรชุดใหม่ล่วงหน้าเป็นระยะๆ สามารถติดตามข้อมูลข่าวสารได้จากเว็บไซต์ของสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (PDMO) ซึ่งเป็นหน่วยงานภายใต้กระทรวงการคลัง หรือจากเว็บไซต์ของธนาคารแห่งประเทศไทย และธนาคารพาณิชย์ที่เป็นตัวแทนจำหน่าย

พันธบัตรชดเชยเงินเฟ้อคืออะไร และเหมาะกับใคร?

พันธบัตรชดเชยเงินเฟ้อ (Inflation-linked Bonds) เป็นพันธบัตรที่มูลค่าเงินต้นและดอกเบี้ยจะปรับเพิ่มขึ้นตามอัตราเงินเฟ้อ เหมาะสำหรับนักลงทุนที่ต้องการรักษากำลังซื้อของเงินลงทุนในระยะยาว โดยเฉพาะในช่วงที่คาดการณ์ว่าอัตราเงินเฟ้อจะสูงขึ้น เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อกัดกินผลตอบแทนที่แท้จริง

發佈留言

發佈留言必須填寫的電子郵件地址不會公開。 必填欄位標示為 *