### บทนำ: ทำความรู้จัก Cup and Handle Pattern คืออะไร?
แพทเทิร์นถ้วยและหูจับ หรือที่รู้จักกันในชื่อ Cup and Handle Pattern ถือเป็นหนึ่งในรูปแบบกราฟทางเทคนิคที่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะสำหรับนักลงทุนที่ต้องการจับสัญญาณการเริ่มต้นของแนวโน้มขาขึ้นหรือการฟื้นตัวหลังจากช่วงพักตัว รูปแบบนี้ถูกพัฒนาขึ้นโดย William J. O’Neil ผู้ก่อตั้ง Investor’s Business Daily และนักเขียนหนังสือดัง “How to Make Money in Stocks” ซึ่งเน้นให้ความสำคัญกับการผสมผสานระหว่างการวิเคราะห์กราฟและปัจจัยพื้นฐานในการตัดสินใจลงทุน
รูปแบบถ้วยและหูจับนี้ช่วยบ่งบอกถึงช่วงเวลาที่ราคาหุ้นหรือสินทรัพย์อื่นๆ กำลังสร้างฐานก่อนจะทะลุขึ้นไปสู่จุดสูงใหม่ มันสะท้อนถึงพฤติกรรมของนักลงทุนที่เริ่มกลับมาสะสมสินทรัพย์หลังจากผ่านการปรับฐานไปแล้ว บทความนี้จึงมุ่งเน้นที่จะอธิบายให้ผู้อ่าน โดยเฉพาะนักเทรดในตลาดหุ้นไทยและตลาด Forex เข้าใจองค์ประกอบหลัก การตรวจจับรูปแบบ และวิธีการนำไปใช้ในการเทรด เพื่อให้สามารถตัดสินใจซื้อขายได้อย่างมั่นใจและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
### ส่วนประกอบสำคัญของ Cup and Handle Pattern
การเข้าใจแต่ละส่วนของแพทเทิร์นถ้วยและหูจับอย่างถ่องแท้จะช่วยให้นักเทรดสามารถตรวจจับและยืนยันสัญญาณได้อย่างแม่นยำ รูปแบบนี้ประกอบด้วยส่วนหลักๆ ได้แก่ ถ้วย หูจับ เส้นแนวต้าน และปริมาณการซื้อขาย ซึ่งแต่ละส่วนล้วนมีบทบาทในการเล่าเรื่องราวของการเคลื่อนไหวราคาและอารมณ์ของตลาด
#### 1. ถ้วย (The Cup): การก่อตัวและลักษณะ
ส่วนของถ้วยคือจุดเริ่มต้นของแพทเทิร์นนี้ โดยมักปรากฏในลักษณะโค้งมนคล้ายรูปตัว U ซึ่งแสดงให้เห็นว่าราคาได้ปรับตัวลงมาอย่างค่อยเป็นค่อยไป ก่อนจะค่อยๆ ฟื้นตัวกลับขึ้นสู่ระดับเดิมหรือใกล้เคียง ความลึกของถ้วยควรอยู่ในระดับที่สมเหตุสมผล ไม่ตื้นหรือลึกจนเกินงาม และมักใช้เวลาก่อตัวนานพอสมควร เช่น อย่างน้อย 1 ถึง 6 เดือนในกราฟรายวัน เพื่อยืนยันถึงการสะสมฐานที่มั่นคง นอกจากนี้ ขอบทั้งสองข้างของถ้วยควรอยู่ในระดับราคาที่ใกล้เคียงกัน เพื่อกำหนดเส้นแนวต้านที่ชัดเจนและน่าเชื่อถือ
#### 2. หูจับ (The Handle): การพักตัวก่อนการทะลุ
หูจับคือส่วนต่อเนื่องที่เกิดขึ้นทางด้านขวาของถ้วย มักเป็นช่วงพักตัวสั้นๆ และตื้นกว่าส่วนถ้วย โดยอาจมีลักษณะคล้ายธงสามเหลี่ยมหรือช่องราคาที่เอียงลงเล็กน้อย ความลึกของหูจับไม่ควรเกินหนึ่งในสามของความลึกถ้วย และไม่ควรต่ำกว่าครึ่งหนึ่งเพื่อรักษาลักษณะขาขึ้นไว้ มันบ่งบอกถึงช่วงที่นักลงทุนบางส่วนขายทำกำไรออกไป แต่โดยรวมแล้วยังคงมีแรงซื้อที่เหนือกว่า ซึ่งเป็นการเตรียมพื้นฐานสำหรับการเคลื่อนไหวครั้งใหญ่ข้างหน้า
#### 3. เส้นแนวต้าน (Resistance Line): จุดเริ่มต้นของเทรนด์ใหม่
เส้นแนวต้านคือเส้นที่เชื่อมต่อจุดสูงสุดของขอบถ้วยทั้งสองข้าง ซึ่งเป็นระดับราคาที่สินทรัพย์เคยถูกกีดกันไม่ให้ทะลุผ่านไปหลายครั้ง เมื่อราคาทะลุเส้นนี้พร้อมกับปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด จะกลายเป็นสัญญาณซื้อหลักของแพทเทิร์น สัญญาณนี้ยืนยันว่าแรงซื้อเริ่มครอบงำตลาด และเปิดโอกาสให้เกิดแนวโน้มขาขึ้นใหม่ได้อย่างแข็งแกร่ง
#### 4. ปริมาณการซื้อขาย (Volume): สัญญาณยืนยันความแข็งแกร่ง
ปริมาณการซื้อขายมีบทบาทสำคัญในการตรวจสอบความน่าเชื่อถือของแพทเทิร์น โดยลักษณะการเปลี่ยนแปลงควรเป็นดังนี้
– ในช่วงเริ่มต้นของถ้วย: ปริมาณมักลดลงขณะที่ราคาปรับฐาน
– ขณะก่อตัวก้นถ้วยและฟื้นตัว: ปริมาณต่ำในช่วงกลาง แต่เริ่มเพิ่มขึ้นเมื่อราคาขึ้นสู่ขอบขวา
– ช่วงหูจับ: ปริมาณควรลดลง แสดงถึงแรงขายที่ไม่รุนแรง
– เวลาทะลุแนวต้าน: ปริมาณต้องพุ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ย เพื่อยืนยันว่าการทะลุไม่ใช่แค่สัญญาณปลอม
ตารางสรุปคุณสมบัติของ Cup and Handle Pattern ในแต่ละส่วน:
| ส่วนประกอบ | ลักษณะของราคา | ลักษณะของปริมาณการซื้อขาย | ความสำคัญ |
| :———— | :———————————————— | :————————————— | :—————————————– |
| **ถ้วย (Cup)** | รูปตัว U หรือโค้งมน, ปรับฐานแล้วฟื้นตัวเท่าเดิม | ลดลงช่วงปรับฐาน, เพิ่มขึ้นช่วงฟื้นตัว | การรวมฐาน, การสะสมแรงซื้อ |
| **หูจับ (Handle)** | การพักตัวเล็กๆ, เอียงลงเล็กน้อย, ไม่ลึกเกิน 1/3 ของถ้วย | ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ | การพักตัวก่อนทะลุ, การคัดกรองแรงขายที่อ่อนแอ |
| **เส้นแนวต้าน (Resistance Line)** | เส้นเชื่อมขอบถ้วย 2 ข้าง | – | จุดตัดสินใจ, สัญญาณซื้อเมื่อทะลุ |
| **ปริมาณการซื้อขาย (Volume)** | เปลี่ยนแปลงตามช่วงการก่อตัว | ยืนยันความแข็งแกร่งของการเคลื่อนไหวราคา | การยืนยันแพทเทิร์น, ลดความเสี่ยงสัญญาณหลอก |
### วิธีการเทรด Cup and Handle Pattern: กลยุทธ์ทำกำไรอย่างเป็นระบบ
หลังจากตรวจพบแพทเทิร์นถ้วยและหูจับแล้ว สิ่งสำคัญคือการนำไปประยุกต์ใช้ในการเทรดจริง โดยมีระบบที่ช่วยเพิ่มโอกาสทำกำไรและควบคุมความเสี่ยงให้อยู่ในระดับที่ยอมรับได้
#### 1. การระบุแพทเทิร์นและการยืนยัน
เริ่มต้นด้วยการฝึกสังเกตรูปแบบบนกราฟราคาให้ชำนาญ การยืนยันควรพิจารณาจาก
– รูปร่างถ้วย: ต้องโค้งมนแบบ U ไม่ใช่ V ที่แหลม
– ความลึกถ้วย: ไม่เกิน 50% ของการเคลื่อนไหวก่อนหน้า
– รูปร่างหูจับ: พักตัวสั้น เอียงลงเล็กน้อยหรือ sideway ไม่ลึกเกินหนึ่งในสามของถ้วย
– ปริมาณการซื้อขาย: ตรวจสอบตามลักษณะแต่ละช่วงเพื่อความมั่นใจ
#### 2. จุดเข้าซื้อ (Entry Point) ที่แม่นยำ
จุดเข้าที่เหมาะสมคือเมื่อราคาทะลุเส้นแนวต้านพร้อมปริมาณที่เพิ่มขึ้น โดยแท่งเทียนปิดเหนือระดับนั้นอย่างชัดเจน
– แบบบุกทะลวง: ซื้อทันทีที่ทะลุพร้อม volume สูง
– แบบระมัดระวัง: รอราคายืนยันเหนือแนวต้าน แล้วรอ retest กลับมาทดสอบ (แนวต้านเดิมกลายเป็นแนวรับ) หากไม่หลุดและเด้งขึ้น ก็เข้าซื้อได้ วิธีนี้ลดความเสี่ยงจากสัญญาณหลอก แต่บางครั้งอาจพลาดการขึ้นเร็วในช่วงแรก
#### 3. การกำหนดจุดหยุดขาดทุน (Stop Loss)
การตั้ง stop loss ช่วยปกป้องทุนจากสถานการณ์ไม่เป็นใจ
– ตำแหน่งแนะนำ: ต่ำกว่าจุดต่ำสุดของหูจับเล็กน้อย หรือต่ำกว่าแนวต้านที่ทะลุไปนิดหน่อย (แต่ต่ำกว่าหูจับปลอดภัยกว่า)
– สำหรับเทรดเดอร์มือโปร: คำนวณจากเปอร์เซ็นต์ความเสี่ยงที่ยอมรับ เช่น 1-2% ของทุนทั้งหมดต่อเทรด
การวางจุดนี้ไว้ให้ดีจะช่วยให้คุณอยู่รอดในตลาดที่ผันผวนได้นานขึ้น
#### 4. การคำนวณเป้าหมายราคา (Target Price)
คำนวณเป้าหมายโดยใช้วิธีวัดความลึกถ้วยแล้วบวกเพิ่มจากจุดทะลุ
– ขั้นตอน:
1. วัดจากจุดต่ำสุดถ้วยถึงแนวต้าน
2. บวกระยะนั้นเข้ากับจุดทะลุ
– ตัวอย่าง: ถ้าความลึก 10 บาท ทะลุที่ 100 บาท เป้าหมายคือ 110 บาท
วิธีนี้ให้แผนทำกำไรที่ชัดเจน แต่จำไว้ว่าราคาจริงอาจแตกต่างตามสภาวะตลาด ดังนั้นควรติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
### Cup and Handle Pattern ในบริบทตลาดไทย: หุ้นและ Forex
ในตลาดไทย การใช้แพทเทิร์นนี้ต้องปรับให้เข้ากับลักษณะเฉพาะของแต่ละตลาด ไม่ว่าจะเป็นหุ้นใน SET หรือคู่เงินใน Forex ซึ่งนักเทรดไทยมักเผชิญทั้งโอกาสและอุปสรรคที่แตกต่าง
#### 1. ตัวอย่างการใช้งานในตลาดหุ้นไทย (SET)
แพทเทิร์นนี้มักพบในหุ้นพื้นฐานแข็งแกร่งและสภาพคล่องดี เช่น กลุ่มพลังงาน ธนาคาร หรือค้าปลีก ซึ่งมีข้อมูลกราฟยาวพอสำหรับวิเคราะห์
– ตัวอย่างสมมติ: หุ้น AOT ปรับจาก 70 บาทลง 60 บาท แล้วฟื้นกลับ 70 บาท สร้างถ้วย จากนั้นพักในกรอบ 68-70 บาทเป็นหูจับ หากทะลุ 70 บาทพร้อม volume สูง อาจเข้าซื้อ โดยคำนวณเป้าหมายจากความลึกถ้วย
– ข้อสังเกต: หุ้นไทยบางตัว volume ไม่สม่ำเสมอ และข่าวในประเทศอาจกระทบราคาแรง ดังนั้นต้องยืนยันด้วย volume และข่าวสาร นักลงทุนสามารถเช็คข้อมูลจาก SET.or.th หรือแพลตฟอร์มอื่นๆ
#### 2. การประยุกต์ใช้ในตลาด Forex สำหรับเทรดเดอร์ไทย
ใน Forex แพทเทิร์นนี้ใช้ได้กับคู่เงินหลักอย่าง EUR/USD, GBP/USD, USD/JPY ที่มีสภาพคล่องสูงและแนวโน้มชัด
– ข้อพิจารณา:
– Timeframe: พบได้ตั้งแต่ M15 ถึง W1 แต่ H4 หรือ D1 น่าเชื่อถือกว่าเพราะลด noise
– Leverage: เพิ่มทั้งกำไรและความเสี่ยง ต้องจัดการทุนดีๆ
– โบรกเกอร์: เลือกที่ได้รับการกำกับดูแล แล้วฝึกบน MetaTrader 4/5 หรือ TradingView เพื่อวิเคราะห์รูปแบบ
### กลยุทธ์ขั้นสูง: ผสาน Cup and Handle Pattern กับเครื่องมืออื่น
เพื่อให้การเทรดแม่นยำยิ่งขึ้น ควรรวมแพทเทิร์นนี้กับอินดิเคเตอร์อื่นๆ ซึ่งช่วยยืนยันสัญญาณและลดความเสี่ยงจากปัจจัยภายนอก
#### 1. การยืนยันด้วย RSI และ MACD
– RSI: เมื่อทะลุแนวต้าน ถ้า RSI อยู่เหนือ 50-60 แสดงโมเมนตัมขาขึ้นดี และถ้ายังไม่ overbought (เกิน 70) ยิ่งมีโอกาสไปต่อ
– MACD: สัญญาณแข็งแกร่งเมื่อเกิด golden cross (MACD ตัด signal ขึ้น) และ histogram เหนือ zero line ขณะทะลุ ช่วยยืนยันการพลิกทิศทางได้ดี
#### 2. การใช้ Fibonacci Retracement ร่วมด้วย
Fibonacci ช่วยประเมินหูจับและแนวรับต้าน
– สำหรับหูจับ: มักพักที่ระดับ 38.2% หรือ 50% ของการขึ้นในถ้วยขวา ถ้าไม่ลึกเกิน จะยืนยันความแข็งแกร่ง
– ตั้งเป้าหมาย: ใช้ extension ที่ 127.2% หรือ 161.8% เพื่อเห็นศักยภาพกำไรไกลขึ้น ช่วยขยายมุมมองการเทรด
### ข้อควรระวังและข้อผิดพลาดที่พบบ่อยในการใช้ Cup and Handle Pattern
แม้แพทเทิร์นนี้จะมีประสิทธิภาพ แต่ตลาดยังเต็มไปด้วยกับดัก หากหลีกเลี่ยงข้อผิดพลาดเหล่านี้ได้ จะช่วยเพิ่มอัตราความสำเร็จในการเทรด
#### 1. False Breakout (สัญญาณหลอก) และวิธีป้องกัน
สัญญาณหลอกเกิดเมื่อราคาทะลุแต่กลับลงมาเร็ว สาเหตุคือขาดการยืนยันที่แข็งแกร่ง
– วิธีป้องกัน:
– เช็ค volume: ทะลุจริงต้อง volume สูงกว่าปกติ ถ้าต่ำให้รอ
– รอแท่งเทียนปิด: อย่ารีบเข้าจนกว่าจะปิดเหนือแนวต้านชัดเจน
– ดู timeframe ใหญ่: D1 หรือ W1 ลด false signal ได้ดีกว่า
– รวมเครื่องมืออื่น: ใช้ RSI, MACD หรือ Stochastics ดูโมเมนตัม
#### 2. การจัดการความเสี่ยงและเงินทุนสำหรับเทรดเดอร์ไทย
ความเสี่ยงและทุนคือหัวใจของการเทรด นักเทรดไทยมักพลาดตรงนี้บ่อย
– Overtrading: เทรดบ่อยโดยไม่มีสัญญาณชัด หรือ lot ใหญ่เกิน อาจสะสมขาดทุน
– ไม่ตั้ง stop loss: ขาดทุนบานปลายจนล้างพอร์ต
– FOMO: ไล่ราคาที่ขึ้นแล้วโดยไม่รอสัญญาณ มักติดดอย
– จัดการทุน: เสี่ยงไม่เกิน 1-2% ต่อเทรด ถ้าขาด 5 ครั้ง เสียแค่ 5-10% ยังสู้ต่อได้
– จิตวิทยา: ควบคุมอารมณ์ ไม่ให้โลภหรือกลัวครอบงำ วินัยสำคัญที่สุด ลองอ่านบทความจาก Investopedia เกี่ยวกับข้อผิดพลาดทั่วไป
### สรุป: ใช้ Cup and Handle Pattern อย่างชาญฉลาด
แพทเทิร์นถ้วยและหูจับคือเครื่องมือขาขึ้นที่ทรงพลัง โดยให้สัญญาณซื้อชัดเจนเมื่อทะลุแนวต้านพร้อม volume เพิ่ม การเข้าใจถ้วย หูจับ เส้นแนวต้าน และ volume คือพื้นฐานสำหรับการนำไปใช้ ไม่ว่าจะในหุ้นไทยหรือ Forex
แต่ไม่มีรูปแบบไหนสมบูรณ์ ควรรวมกับ RSI, MACD และ Fibonacci เพื่อยืนยันสัญญาณให้แน่นหนา พร้อมจัดการความเสี่ยงและทุนอย่างเคร่งครัด เพื่อรับมือ false breakout หรือตลาดแปรปรวน
นักเทรดที่เก่งคือคนที่เรียนรู้ต่อเนื่อง ฝึกฝน และมีวินัย การใช้แพทเทิร์นนี้อย่างชาญฉลาดจะช่วยเสริมการตัดสินใจและสร้างกำไรยั่งยืน แต่โปรดจำไว้ว่าการลงทุนมีความเสี่ยง ควรศึกษาข้อมูลให้ละเอียดก่อนลงมือ
Cup and Handle Pattern คืออะไร และมีความสำคัญต่อการวิเคราะห์กราฟอย่างไร?
Cup and Handle Pattern คือรูปแบบกราฟทางเทคนิคขาขึ้นที่บ่งชี้ถึงการรวมฐานของราคาและมีโอกาสสูงที่จะทะลุแนวต้านขึ้นไปทำจุดสูงสุดใหม่ มีความสำคัญในการช่วยให้นักเทรดระบุจุดเข้าซื้อที่มีศักยภาพและกำหนดเป้าหมายราคาได้.
ส่วนประกอบหลักของ Cup and Handle Pattern มีอะไรบ้าง และจะระบุได้อย่างไร?
ส่วนประกอบหลัก ได้แก่:
- ถ้วย (The Cup): รูปตัว U หรือโค้งมน บ่งบอกการปรับฐานแล้วฟื้นตัว
- หูจับ (The Handle): การพักตัวเล็กๆ ทางด้านขวาของถ้วย มักเอียงลงเล็กน้อย
- เส้นแนวต้าน (Resistance Line): เส้นที่เชื่อมขอบถ้วยทั้งสองข้าง
- ปริมาณการซื้อขาย (Volume): ใช้ยืนยันความแข็งแกร่งของแต่ละส่วน โดยเฉพาะช่วงทะลุแนวต้าน.
สามารถระบุได้ด้วยตาเปล่าบนกราฟราคาโดยมองหารูปร่างเหล่านี้ และยืนยันด้วยปริมาณการซื้อขาย.
ควรใช้กลยุทธ์การเข้าซื้อ (Entry Point) และจุดหยุดขาดทุน (Stop Loss) อย่างไรเมื่อพบ Cup and Handle Pattern?
จุดเข้าซื้อ (Entry Point): นิยมเข้าซื้อเมื่อราคาทะลุเส้นแนวต้านของแพทเทิร์นพร้อมปริมาณการซื้อขายที่สูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ หรือรอการ Retest แนวต้านเดิม.
จุดหยุดขาดทุน (Stop Loss): ควรตั้งไว้ต่ำกว่าจุดต่ำสุดของหูจับเล็กน้อย หรือต่ำกว่าเส้นแนวต้านที่เพิ่งถูกทะลุผ่านไปเล็กน้อย เพื่อจำกัดความเสี่ยง.
Cup and Handle Pattern สามารถใช้ได้กับตลาดหุ้นไทย (SET) และตลาด Forex ได้ผลดีแค่ไหน?
แพทเทิร์นนี้สามารถใช้ได้ผลดีทั้งในตลาดหุ้นไทย (SET) และตลาด Forex โดยเฉพาะกับหุ้นที่มีสภาพคล่องสูงใน SET และคู่เงินหลักในตลาด Forex การเลือก Timeframe ที่เหมาะสมและพิจารณาปัจจัยเฉพาะของแต่ละตลาดจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพได้.
มีข้อควรระวังหรือข้อผิดพลาดใดบ้างที่นักเทรดไทยมักทำเมื่อใช้ Cup and Handle Pattern?
ข้อควรระวังและข้อผิดพลาดที่พบบ่อย ได้แก่:
- สัญญาณหลอก (False Breakout): การทะลุแนวต้านแต่ราคาไม่ไปต่อ
- การไม่ยืนยันด้วย Volume: เข้าซื้อโดยที่ปริมาณการซื้อขายไม่สูงพอ
- การไม่ตั้ง Stop Loss: ทำให้ขาดทุนหนักหากแพทเทิร์นไม่สำเร็จ
- การไล่ราคา (FOMO): เข้าซื้อเมื่อราคาพุ่งสูงไปแล้ว
- การไม่เข้าใจความลึกของหูจับ: หูจับที่ลึกเกินไปอาจเป็นสัญญาณที่ไม่ดี.
การคำนวณเป้าหมายราคา (Target Price) ของ Cup and Handle Pattern ทำได้อย่างไร?
เป้าหมายราคาคำนวณโดยการวัดความลึกของ “ถ้วย” (จากจุดต่ำสุดของถ้วยไปยังเส้นแนวต้าน) จากนั้นนำระยะทางที่ได้ไปบวกเพิ่มจากจุดที่ราคาทะลุเส้นแนวต้านขึ้นไป.
ถ้าไม่มี “หูจับ” (Handle) ถือว่ายังเป็น Cup and Handle Pattern ที่ถูกต้องหรือไม่?
โดยนิยามแล้ว ถ้าไม่มี “หูจับ” จะไม่ถือว่าเป็น Cup and Handle Pattern ที่สมบูรณ์ เพราะ “หูจับ” เป็นส่วนสำคัญที่บ่งบอกถึงการพักตัวและการรวมฐานก่อนการทะลุ หากไม่มีหูจับ อาจเป็นเพียงรูปแบบ “Cup” ซึ่งอาจบ่งบอกถึงการฟื้นตัว แต่ขาดช่วงการทดสอบแรงขายที่ชัดเจน.
มีเครื่องมือหรืออินดิเคเตอร์ใดบ้างที่ควรใช้ร่วมกับ Cup and Handle Pattern เพื่อเพิ่มความแม่นยำ?
ควรใช้ร่วมกับ:
- RSI (Relative Strength Index): เพื่อดูโมเมนตัมและภาวะ Overbought/Oversold.
- MACD (Moving Average Convergence Divergence): เพื่อยืนยันการเปลี่ยนทิศทางและโมเมนตัม.
- Fibonacci Retracement: เพื่อประเมินความลึกของหูจับและกำหนดแนวรับ/แนวต้าน.
- Moving Averages (เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่): เพื่อยืนยันแนวโน้ม.
Cup and Handle Pattern ที่เป็นขาลง (Inverted Cup and Handle) คืออะไร และแตกต่างจากรูปแบบปกติอย่างไร?
Inverted Cup and Handle (แพทเทิร์นถ้วยคว่ำและหูจับ) คือรูปแบบกลับกันของ Cup and Handle Pattern ปกติ โดยถ้วยจะคว่ำลงและหูจับจะอยู่ด้านบน บ่งชี้ถึงสัญญาณกลับตัวเป็นขาลง (Bearish Reversal) และมักใช้สำหรับการเปิดสถานะ Short Sell หรือขายทำกำไรก่อนที่ราคาจะลงต่อ. กลยุทธ์การเทรดจะตรงกันข้ามกับรูปแบบปกติ.
นักลงทุนไทยควรใช้ Timeframe (กรอบเวลา) ใดในการมองหา Cup and Handle Pattern ที่เหมาะสมที่สุด?
ไม่มี Timeframe ที่ “ดีที่สุด” เพียงหนึ่งเดียว แต่โดยทั่วไปแล้ว Timeframe ที่ยาวขึ้น (เช่น กราฟรายวัน (D1) หรือรายสัปดาห์ (W1)) มักจะให้สัญญาณที่น่าเชื่อถือมากกว่า เนื่องจากลดทอนสัญญาณรบกวน (Noise) ลงได้ สำหรับนักเทรดระยะสั้น อาจมองหาแพทเทิร์นใน Timeframe ราย 4 ชั่วโมง (H4) หรือรายชั่วโมง (H1) ได้ แต่ควรระวัง False Breakout มากขึ้น.
