FCA (Financial Conduct Authority) คืออะไร? ความรู้พื้นฐานที่นักลงทุนต้องรู้
หน่วยงานที่ชื่อว่า Financial Conduct Authority หรือเรียกสั้นๆ ว่า FCA คือองค์กรหลักที่ดูแลเรื่องการเงินในสหราชอาณาจักร โดยมีหน้าที่สำคัญในการปกป้องสิทธิของผู้ใช้บริการและรักษาความมั่นคงของระบบตลาดการเงินทั้งหมด FCA เริ่มปฏิบัติงานตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2556 โดยเข้ามารับช่วงต่อจาก Financial Services Authority (FSA) ซึ่งเป็นผลมาจากการปฏิรูปโครงสร้างกำกับดูแลการเงินครั้งใหญ่ในอังกฤษ การเปลี่ยนแปลงนี้มุ่งแยกหน้าที่ออกเป็นสองส่วนหลัก คือ การดูแลพฤติกรรมของผู้ประกอบการที่ FCA รับผิดชอบ และการดูแลความมั่นคงทางการเงินของสถาบันที่ Prudential Regulation Authority (PRA) จัดการ

FCA รับผิดชอบการกำกับดูแลการดำเนินงานของบริษัทที่ให้บริการทางการเงินในสหราชอาณาจักร เพื่อให้ตลาดเคลื่อนไหวอย่างโปร่งใส ยุติธรรม และมีประสิทธิภาพ โดยให้ความสำคัญสูงสุดกับการคุ้มครองผู้บริโภค หน่วยงานนี้จัดการตั้งแต่การออกกฎเกณฑ์ การตรวจสอบกิจกรรม จนถึงการลงโทษผู้ที่ฝ่าฝืน เพื่อหยุดยั้งการหลอกลวงและการปฏิบัติที่ไม่ชอบธรรมต่อนักลงทุนและผู้ใช้บริการทั่วไป จากประสบการณ์ในอดีต เช่น กรณีการฉ้อโกงที่เกิดขึ้นในตลาด ทำให้ FCA ยิ่งเน้นย้ำมาตรฐานที่เข้มงวดเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับทุกฝ่าย
เป้าหมายหลักและอำนาจหน้าที่ของ FCA
FCA ดำเนินงานโดยยึดหลักเป้าหมายสามด้านหลักที่เชื่อมโยงกันอย่างแนบแน่น ได้แก่ การปกป้องผู้บริโภค การรักษาความซื่อตรงของตลาด และการผลักดันการแข่งขันที่เกิดประโยชน์ให้กับผู้ใช้บริการ

1. **การคุ้มครองผู้บริโภค:** FCA ทุ่มเทเพื่อให้ผู้บริโภคได้รับบริการที่ยุติธรรม โปร่งใส และเข้าใจง่าย บริษัทที่ให้บริการต้องปฏิบัติต่อลูกค้าด้วยความเป็นธรรม จัดหาข้อมูลที่ถูกต้องชัดเจนเกี่ยวกับสินค้าและบริการ รวมถึงมีระบบรับมือข้อร้องเรียนที่รวดเร็ว หากเกิดการละเมิด FCA สามารถลงมือจัดการ เช่น ออกคำสั่งปรับเงิน ยกเลิกใบอนุญาต หรือห้ามบุคคลที่เกี่ยวข้องทำงานในวงการนี้ต่อไป ซึ่งช่วยป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นกับนักลงทุนรายย่อย
2. **ความซื่อสัตย์ของตลาด:** หน่วยงานนี้มุ่งรักษาความน่าเชื่อถือของตลาดการเงินในสหราชอาณาจักร โดยปราบปรามการ操控ราคา การใช้ข้อมูลภายในเพื่อซื้อขาย และกิจกรรมผิดกฎหมายอื่นๆ ผ่านการบังคับใช้กฎเข้มงวด ทำให้ตลาดโปร่งใสและน่าไว้วางใจสำหรับนักลงทุนทุกคน
3. **การส่งเสริมการแข่งขันที่มีประสิทธิภาพ:** FCA มองว่าการแข่งขันที่ดุเดือดช่วยกระตุ้นนวัตกรรม ลดค่าใช้จ่าย และเพิ่มตัวเลือกให้ผู้บริโภค จึงตรวจตราพฤติกรรมของบริษัทเพื่อหลีกเลี่ยงการผูกขาดหรือการกีดกันคู่แข่ง พร้อมส่งเสริมให้เกิดผลิตภัณฑ์ที่ดีขึ้นสำหรับนักลงทุน
นอกจากนี้ FCA ยังมีอำนาจกว้างขวางในการอนุมัติใบอนุญาตให้บริษัทการเงิน ออกและปรับปรุงกฎระเบียบ ตรวจสอบการปฏิบัติตามอย่างสม่ำเสมอ สอบสวนคดีละเมิด และบังคับใช้มาตรการที่จำเป็นเพื่อปกป้องนักลงทุนและรักษาความสมดุลของตลาด การทำงานเหล่านี้ช่วยให้ระบบการเงินของสหราชอาณาจักรเติบโตอย่างยั่งยืน
บริษัทและผลิตภัณฑ์ทางการเงินใดบ้างที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ FCA?
FCA ครอบคลุมการกำกับดูแลบริษัทและบริการการเงินหลายรูปแบบในสหราชอาณาจักร เพื่อให้ทุกส่วนที่เกี่ยวข้องกับธุรกรรมการเงินของบุคคลและองค์กรได้รับการดูแลอย่างครบถ้วน ตัวอย่างสถาบันและสินค้าที่อยู่ในการกำกับดูแล ได้แก่

* **ธนาคารและผู้ให้กู้ยืม:** ครอบคลุมธนาคารพาณิชย์ ธนาคารออมทรัพย์ สมาคมก่อสร้างอาคาร และผู้ปล่อยกู้สำหรับผู้บริโภคทั่วไป
* **บริษัทลงทุนและบริหารสินทรัพย์:** เช่น ผู้จัดการกองทุน ที่ปรึกษาการลงทุน และผู้ดูแลพอร์ตการลงทุน
* **บริษัทประกันภัย:** รวมถึงผู้รับประกันชีวิต ประกันไม่ใช่ชีวิต และตัวแทนประกัน
* **โบรกเกอร์แลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศและสัญญาซื้อขายส่วนต่าง:** บริษัทที่จัดการการเทรด Forex และ CFD ซึ่งเป็นที่นิยมในหมู่นักลงทุนทั่วโลก รวมถึงคนไทยที่สนใจตลาดนี้
* **ผู้ให้บริการชำระเงิน:** เช่น ผู้จัดการบัตรเครดิต เดบิต และการโอนเงินออนไลน์
* **ผู้ให้สินเชื่อสำหรับผู้บริโภค:** บริษัทที่ปล่อยกู้ส่วนบุคคล กู้รถยนต์ หรือรูปแบบอื่นๆ
* **ตลาดหลักทรัพย์และผู้ดำเนินการตลาด:** เช่น London Stock Exchange และแพลตฟอร์มซื้อขายอื่นๆ
สินค้าและบริการที่ได้รับการกำกับดูแลก็หลากหลาย ตั้งแต่บัญชีออมทรัพย์ สินเชื่อที่อยู่อาศัย ไปจนถึงเครื่องมือลงทุนซับซ้อนอย่างหุ้น พันธบัตร กองทุนรวม และอนุพันธ์ การที่เหล่านี้อยู่ภายใต้ FCA ช่วยให้นักลงทุนรู้สึกมั่นใจในมาตรฐานและระดับการคุ้มครองที่ได้รับ โดยเฉพาะในยุคที่ตลาดเปลี่ยนแปลงรวดเร็ว
ความสำคัญของใบอนุญาต FCA และวิธีการตรวจสอบสำหรับนักลงทุน
ใบอนุญาตจาก FCA แสดงถึงความน่าเชื่อถือและความปลอดภัยในวงการการเงิน โดยเฉพาะสำหรับนักลงทุนที่ต้องการความมั่นคง บริษัทที่มีใบอนุญาตต้องยึดมั่นกฎเกณฑ์ที่เข้มงวด เช่น การแยกเงินลูกค้าออกจากเงินบริษัท เข้าร่วม Financial Services Compensation Scheme (FSCS) เพื่อชดเชยกรณีล้มละลาย และมีระบบรับข้อร้องเรียนที่เป็นธรรม
นักลงทุนไม่ควรละเลยการตรวจสอบใบอนุญาต FCA เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกหลอกลวงจากบริษัทเถื่อน คุณสามารถเช็คข้อมูลได้ง่ายๆ ผ่าน FCA Register ซึ่งเป็นฐานข้อมูลออนไลน์อย่างเป็นทางการ
**ขั้นตอนการตรวจสอบใบอนุญาต FCA บน FCA Register:**
1. **เข้าสู่เว็บไซต์ FCA Register:** ไปที่ register.fca.org.uk
2. **ป้อนข้อมูลบริษัท:** ค้นหาด้วยชื่อบริษัท หมายเลขทะเบียนบริษัท (Firm Reference Number – FRN) หรือรหัสไปรษณีย์
3. **ตรวจสอบสถานะ:** เมื่อเจอชื่อ ให้ดูสถานะการกำกับดูแล หากได้รับอนุญาต จะแสดงประเภทใบอนุญาตและขอบเขตบริการ
4. **ระวังการแอบอ้าง:** ตรวจสอบให้ตรงกับข้อมูลจาก FCA เท่านั้น ผู้หลอกลวงมักปลอมชื่อหรือ FRN ของบริษัทอื่น นักลงทุนไทยต้องระวังการติดต่อจากบริษัทแปลกหน้า หรือข้อเสนอผลตอบแทนสูงผิดปกติ ควรเช็คให้ละเอียดก่อนลงทุน
FCA เตือนเสมอว่าการใช้ FCA Register คือวิธีที่ดีที่สุดในการป้องกันตัวเองจากมิจฉาชีพทางการเงิน
ความแตกต่างระหว่าง FCA และหน่วยงานกำกับดูแลอื่นๆ ในสหราชอาณาจักร
สหราชอาณาจักรมีหน่วยงานกำกับดูแลการเงินหลายแห่งที่ประสานงานกันเพื่อรักษาความมั่นคงของระบบ โดยแต่ละแห่งมีบทบาทเฉพาะตัว หน่วยงานหลักที่มักถูกนำมาเปรียบเทียบกับ FCA คือ Prudential Regulation Authority (PRA) และ Bank of England
* **Financial Conduct Authority (FCA):** มุ่งเน้นการดูแลพฤติกรรม (Conduct Regulation) เพื่อปกป้องผู้บริโภค รักษาความซื่อตรงของตลาด และส่งเสริมการแข่งขัน โดยตรวจสอบว่าบริษัทปฏิบัติต่อลูกค้าอย่างไรและดำเนินธุรกิจให้ยุติธรรมแค่ไหน
* **Prudential Regulation Authority (PRA):** ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ Bank of England ดูแลด้านความมั่นคงของสถาบัน (Prudential Regulation) โดยเน้นบริษัทสำคัญอย่างธนาคาร ประกันภัย และผู้ลงทุนขนาดใหญ่ เพื่อให้มีทุนสำรองเพียงพอและจัดการความเสี่ยงดี ป้องกันการล้มละลายที่กระทบระบบโดยรวม
* **Bank of England:** นอกจากจัดการ PRA แล้ว ธนาคารกลางนี้ยังดูแลเสถียรภาพเศรษฐกิจทั้งประเทศ กำหนดนโยบายการเงิน และให้ความช่วยเหลือในยามวิกฤต
ก่อนปี 2556 หน่วยงานเดียวที่ดูแลทั้งหมดคือ Financial Services Authority (FSA) แต่หลังวิกฤตการเงินโลกปี 2551 รัฐบาลเห็นว่าต้องปรับโครงสร้างให้เฉพาะเจาะจงมากขึ้น จึงแยกเป็น FCA และ PRA เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและความเชี่ยวชาญ
ผลกระทบของ FCA ต่อนักลงทุนไทย: ประโยชน์และความท้าทาย
นักลงทุนไทยที่สนใจตลาดต่างประเทศ โดยเฉพาะการเทรด Forex หรือ CFD การเลือกโบรกเกอร์ภายใต้ FCA ถือเป็นทางเลือกที่ชาญฉลาด เพราะ FCA เป็นหน่วยงานที่เข้มงวดและน่าเชื่อถือระดับโลก สิ่งนี้มอบข้อดีหลายอย่าง
* **ความน่าเชื่อถือระดับสากล:** ใบอนุญาต FCA ได้รับการยอมรับทั่วโลก สร้างความมั่นใจในความโปร่งใสและมาตรฐานการทำงาน
* **การป้องกันเงินทุน:** โบรกเกอร์ต้องแยกเงินลูกค้าออกจากเงินตัวเอง (client money segregation) ทำให้เงินของคุณปลอดภัยแม้บริษัทมีปัญหา
* **โครงการชดเชย (FSCS):** ถ้าโบรกเกอร์ล้ม นักลงทุนอาจได้ชดเชยจาก FSCS สูงสุด 85,000 ปอนด์ ลดความเสี่ยงสูญเสีย
* **กลไกการแก้ไขข้อพิพาท:** FCA มีระบบร้องเรียนที่เป็นธรรม หากมีปัญหากับโบรกเกอร์ สามารถยื่นเรื่องผ่าน FCA ได้
แต่ก็มีอุปสรรคสำหรับนักลงทุนไทย เช่น
* **อุปสรรคทางภาษา:** การสื่อสารต้องใช้ภาษาอังกฤษ ซึ่งอาจลำบากสำหรับบางคน
* **ความแตกต่างของเขตเวลา:** การติดต่อสนับสนุนหรือข่าวสารต้องปรับตามเวลาต่างกัน
* **ขอบเขตการคุ้มครอง:** การปกป้องนักลงทุนต่างชาติอาจจำกัด หรือต้องใช้กระบวนการกฎหมายข้ามประเทศที่ยุ่งยาก
* **ความเข้าใจทางวัฒนธรรมและกฎหมาย:** กฎของสหราชอาณาจักรอาจต่างจากไทย ต้องศึกษาก่อน
นักลงทุนไทยควรทำความรู้จักสิทธิตัวเองให้ดีเพื่อการลงทุนที่ปลอดภัย
FCA กับการกำกับดูแล FinTech และ Cryptocurrency: ความท้าทายและแนวโน้ม
ในยุคที่ FinTech และสินทรัพย์ดิจิทัลอย่าง Cryptocurrency เติบโต FCA มีบทบาทสำคัญในการสร้างกรอบที่สมดุลระหว่างนวัตกรรมและความเสี่ยง หน่วยงานนี้เห็นศักยภาพของ FinTech ในการเพิ่มการแข่งขันและประโยชน์ให้ผู้บริโภค แต่ก็ระวังภัยที่ตามมา
* **การกำกับดูแล FinTech:** FCA เปิดโครงการ Project Innovate และ Regulatory Sandbox เพื่อช่วยบริษัท FinTech พัฒนาสินค้าใหม่ โดยให้คำปรึกษากฎระเบียบและทดลองในสภาพแวดล้อมควบคุม ช่วยให้ผลิตภัณฑ์ทันสมัยเข้าถึงตลาดอย่างปลอดภัย
* **การกำกับดูแล Cryptocurrency:** FCA มีแนวทางระมัดระวัง โดยเฉพาะการคุ้มครองผู้บริโภค FCA จัดประเภทสินทรัพย์ดิจิทัลและกำหนดขอบเขต โดยโฟกัสโทเค็นที่เป็นหลักทรัพย์หรือ e-money นอกจากนี้ ห้ามขายอนุพันธ์คริปโต (เช่น CFD) ให้รายย่อยเพราะความผันผวนสูงและเสี่ยงสูญเงิน
สำหรับนักลงทุนไทย การรู้แนวทางของ FCA เรื่อง FinTech และ Cryptocurrency สำคัญมาก โดยเฉพาะลงทุนแพลตฟอร์มต่างประเทศ ควรเปรียบกับ ก.ล.ต. ไทยที่กำลังพัฒนากฎสำหรับสินทรัพย์ดิจิทัล เพื่อให้การลงทุนถูกกฎหมายและได้รับคุ้มครอง
สรุป: เลือก FCA เพื่อการลงทุนที่มั่นคงและปลอดภัยสำหรับคุณ
Financial Conduct Authority (FCA) คือหน่วยงานหลักของสหราชอาณาจักรที่ปกป้องผู้บริโภค รักษาความซื่อตรงของตลาด และส่งเสริมการแข่งขันที่ยุติธรรม ใบอนุญาตจาก FCA ยืนยันถึงความมุ่งมั่นในมาตรฐานสูง ซึ่งมีคุณค่ามากสำหรับนักลงทุน
นักลงทุนไทยที่มองหาโอกาสต่างประเทศ การเลือกบริษัทภายใต้ FCA ช่วยยกระดับความปลอดภัยและความเชื่อมั่น แม้มีอุปสรรคข้ามประเทศอย่างภาษาหรือเวลา แต่ประโยชน์จากคุ้มครองเงินและแก้ไขปัญหาที่แข็งแกร่งนั้นคุ้มค่า
แนะนำให้ใช้ FCA Register เช็คใบอนุญาตเสมอ เพิ่มความรู้เรื่องความเสี่ยง และศึกษาข้อมูลให้รอบคอบ เพื่อตัดสินใจลงทุนอย่างชาญฉลาดในโลกการเงินที่พลิกผัน การเลือก FCA คือทางสู่การลงทุนมั่นคงสำหรับอนาคต
คำถามที่พบบ่อย (FAQ)
Q1: ในฐานะนักลงทุนไทย ฉันจะตรวจสอบใบอนุญาต FCA ของโบรกเกอร์ได้อย่างไร และมีขั้นตอนอะไรบ้าง?
คุณสามารถตรวจสอบใบอนุญาตได้ที่เว็บไซต์ทางการของ FCA Register (register.fca.org.uk) โดยป้อนชื่อบริษัทหรือหมายเลข Firm Reference Number (FRN) ของโบรกเกอร์ลงในช่องค้นหา จากนั้นตรวจสอบรายละเอียดและสถานะการกำกับดูแลว่าถูกต้องและตรงกับบริการที่นำเสนอหรือไม่
Q2: หากโบรกเกอร์ที่ได้รับการกำกับดูแลโดย FCA มีปัญหาหรือฉ้อโกง ฉันในฐานะคนไทยจะร้องเรียนได้อย่างไรและกระบวนการเป็นอย่างไร?
อันดับแรก คุณควรร้องเรียนไปยังโบรกเกอร์โดยตรงตามขั้นตอนที่พวกเขากำหนด หากไม่ได้รับการแก้ไขที่น่าพอใจ คุณสามารถยื่นเรื่องร้องเรียนไปยัง Financial Ombudsman Service (FOS) ซึ่งเป็นหน่วยงานอิสระที่ FCA สนับสนุน เพื่อช่วยแก้ไขข้อพิพาทระหว่างผู้บริโภคและบริษัททางการเงิน โดยปกติแล้วคุณจะต้องมีหลักฐานการติดต่อและรายละเอียดของปัญหาที่เกิดขึ้น
Q3: FCA มีบทบาทในการคุ้มครองนักลงทุนไทยที่ลงทุนในตลาดต่างประเทศ เช่น Forex หรือ CFD อย่างไร?
FCA คุ้มครองนักลงทุนไทยที่ใช้บริการโบรกเกอร์ที่ได้รับใบอนุญาตจาก FCA โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านมาตรการการป้องกันเงินทุน เช่น การแยกเงินลูกค้าออกจากเงินบริษัท (client money segregation) และการเข้าร่วมโครงการชดเชย FSCS นอกจากนี้ FCA ยังกำกับดูแลพฤติกรรมของโบรกเกอร์เพื่อให้มั่นใจว่ามีการปฏิบัติที่เป็นธรรมและโปร่งใส แม้ว่าคุณจะไม่ได้อยู่ในสหราชอาณาจักรก็ตาม
Q4: อะไรคือความแตกต่างที่สำคัญระหว่าง FCA และ กลต. ไทย (สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์) ในแง่ของขอบเขตการกำกับดูแล?
FCA (สหราชอาณาจักร) เน้นการกำกับดูแลเชิงพฤติกรรมของบริษัทการเงินทั้งหมดใน UK รวมถึงการคุ้มครองผู้บริโภคและการส่งเสริมการแข่งขัน ในขณะที่ กลต. ไทย มีบทบาทหลักในการกำกับดูแลตลาดทุนของประเทศไทย รวมถึงบริษัทหลักทรัพย์ ตลาดหลักทรัพย์ และผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่เกี่ยวข้องกับหลักทรัพย์ เพื่อปกป้องนักลงทุนในประเทศ และรักษาเสถียรภาพของตลาดทุนไทย
Q5: การลงทุนกับโบรกเกอร์ที่มีใบอนุญาต FCA ปลอดภัย 100% หรือไม่ และมีข้อควรระวังอะไรบ้างสำหรับนักลงทุนไทย?
การลงทุนกับโบรกเกอร์ FCA เพิ่มความปลอดภัยอย่างมาก แต่ไม่มีการลงทุนใดที่ปลอดภัย 100% เพราะความเสี่ยงของตลาด (market risk) ยังคงมีอยู่ สิ่งสำคัญคือนักลงทุนไทยควรระวังโบรกเกอร์แอบอ้าง ให้ผลตอบแทนสูงเกินจริง และตรวจสอบให้แน่ใจว่าเว็บไซต์ที่คุณเข้าถึงเป็นของจริง ไม่ใช่เว็บปลอมที่เลียนแบบ ควรศึกษาผลิตภัณฑ์การลงทุนให้เข้าใจ และไม่ลงทุนในสิ่งที่ตนเองไม่เข้าใจ
Q6: FCA จัดการกับบริษัทที่ให้บริการสินทรัพย์ดิจิทัลและคริปโตเคอร์เรนซีในสหราชอาณาจักรอย่างไร และมีผลต่อนักลงทุนไทยอย่างไร?
FCA กำกับดูแลบริษัทที่ให้บริการสินทรัพย์ดิจิทัลบางประเภท โดยเฉพาะที่เข้าข่ายเป็นหลักทรัพย์หรือ e-money แต่ยังคงมองว่าคริปโตเคอร์เรนซีส่วนใหญ่มีความเสี่ยงสูงและไม่ได้รับการคุ้มครองภายใต้ FSCS FCA ได้สั่งห้ามการขายอนุพันธ์คริปโตให้กับนักลงทุนรายย่อยใน UK ซึ่งส่งผลให้นักลงทุนไทยที่ใช้บริการโบรกเกอร์ FCA อาจไม่สามารถเข้าถึงผลิตภัณฑ์เหล่านี้ได้โดยตรง และควรระวังความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล
Q7: มีข้อควรพิจารณาทางกฎหมายหรือภาษีอะไรบ้างที่นักลงทุนไทยควรทราบเมื่อซื้อขายกับบริษัทที่ได้รับการกำกับดูแลโดย FCA?
นักลงทุนไทยควรทราบว่ากำไรจากการลงทุนในตลาดต่างประเทศอาจอยู่ภายใต้กฎหมายภาษีของประเทศไทย หากนำเงินรายได้กลับเข้าประเทศภายในปีภาษีเดียวกัน ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านภาษีในประเทศไทยเพื่อทำความเข้าใจภาระภาษีที่อาจเกิดขึ้น นอกจากนี้ การทำธุรกรรมกับบริษัทในต่างประเทศอาจมีข้อพิจารณาทางกฎหมายเกี่ยวกับการโอนเงินข้ามประเทศและข้อกำหนดด้านเอกสาร
Q8: ฉันจะแยกแยะโบรกเกอร์ FCA ปลอมออกจากของจริงได้อย่างไร เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกหลอกลวงที่พบบ่อยในประเทศไทย?
วิธีที่ดีที่สุดคือการตรวจสอบหมายเลข Firm Reference Number (FRN) บนเว็บไซต์ FCA Register เสมอ (อย่าเชื่อข้อมูลที่โบรกเกอร์ให้มาแต่ให้ค้นหาเอง) ระวังเว็บไซต์ที่สะกดผิดหรือมีโดเมนแปลกๆ รวมถึงการเสนอผลตอบแทนที่สูงเกินจริงหรือการเร่งรัดให้ลงทุนโดยไม่ให้ข้อมูลเพียงพอ หากมีข้อสงสัย ให้ติดต่อ FCA โดยตรงเพื่อยืนยันข้อมูล
Q9: หากบริษัทที่ได้รับการกำกับดูแลโดย FCA ล้มละลาย เงินทุนของนักลงทุนไทยจะปลอดภัยหรือไม่ภายใต้โครงการชดเชยบริการทางการเงิน (FSCS)?
ใช่ หากบริษัทที่ได้รับการกำกับดูแลโดย FCA ล้มละลาย เงินทุนของคุณที่แยกไว้ (segregated funds) จะได้รับการคุ้มครองในระดับหนึ่งภายใต้ Financial Services Compensation Scheme (FSCS) ซึ่งให้การชดเชยสูงสุดถึง 85,000 ปอนด์ต่อบุคคลต่อบริษัท อย่างไรก็ตาม ต้องเป็นบริษัทที่ได้รับอนุญาตและมีคุณสมบัติตรงตามเงื่อนไขของ FSCS เท่านั้น
Q10: FCA มีบทบาทอย่างไรในการส่งเสริมการแข่งขันที่เป็นธรรมและนวัตกรรมในตลาดการเงิน เพื่อประโยชน์ของนักลงทุน?
FCA ส่งเสริมการแข่งขันโดยการกำกับดูแลเพื่อป้องกันการผูกขาดและพฤติกรรมที่จำกัดการแข่งขันในตลาด นอกจากนี้ยังสนับสนุนนวัตกรรมผ่านโครงการอย่าง “Project Innovate” และ “Regulatory Sandbox” ซึ่งช่วยให้บริษัท FinTech สามารถพัฒนาและทดสอบผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ได้อย่างปลอดภัยภายใต้การกำกับดูแล สิ่งเหล่านี้ช่วยให้นักลงทุนมีทางเลือกมากขึ้น ได้รับบริการที่ดีขึ้น และราคาที่ยุติธรรม