บทนำ: เงินเฟ้อคืออะไร และทำไมทองคำจึงเป็นประเด็นสำคัญ?
เงินเฟ้อคือสถานการณ์ที่ราคาสินค้าและบริการในเศรษฐกิจโดยรวมค่อยๆ ปรับตัวสูงขึ้นเรื่อยๆ ส่งผลให้มูลค่าของเงินที่เราถืออยู่ลดลง หรือพูดให้ชัดเจนกว่านั้น เงินจำนวนเดิมที่เคยซื้อของได้มาก ตอนนี้กลับซื้อได้น้อยลง สภาพเช่นนี้สร้างความกังวลให้กับคนทั่วไปและนักลงทุนทั่วโลก รวมถึงในไทยด้วย เพราะมันกัดกินมูลค่าของเงินออมและทรัพย์สินที่เราสะสมไว้

เมื่อเงินเฟ้อเริ่มรุนแรงขึ้น ทองคำมักถูกหยิบยกขึ้นมาในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หรือที่เรียกกันว่าอุปกรณ์ป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อ ซึ่งช่วยรักษามูลค่าไว้ได้แม้ค่าเงินจะอ่อนตัวลง แต่ความเชื่อมโยงระหว่างเงินเฟ้ากับราคาทองคำไม่ได้เรียบง่ายอย่างที่หลายคนคิด บางช่วงราคาทองอาจพุ่งขึ้น บางครั้งก็ทรงตัวหรือแม้แต่ร่วงลง บทความนี้จะวิเคราะห์ความสัมพันธ์นี้อย่างละเอียด พร้อมนำเสนอมุมมองและวิธีการลงทุนทองคำที่เหมาะกับนักลงทุนชาวไทย โดยพิจารณาจากบริบทเศรษฐกิจปัจจุบันที่เงินเฟ้อยังคงเป็นปัจจัยกดดันหลัก
ความสัมพันธ์พื้นฐาน: ทองคำขึ้นหรือลงเมื่อเกิดเงินเฟ้อ?
เพื่อให้เข้าใจว่าทองคำจะเคลื่อนไหวอย่างไรในยุคเงินเฟ้อ เราจำเป็นต้องดูทั้งลักษณะเด่นของมันเองและปัจจัยซับซ้อนที่เข้ามาเกี่ยวข้องกับตลาด

ทองคำในฐานะสินทรัพย์ป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อ
ทองคำมีประวัติศาสตร์อันยาวนานในการทำหน้าที่เป็นที่เก็บมูลค่า โดยเฉพาะในช่วงที่เศรษฐกิจเต็มไปด้วยความไม่แน่นอนหรือเงินเฟ้อรุนแรง สิ่งที่ทำให้ทองคำโดดเด่นคือปริมาณที่จำกัด คุณค่าที่มีอยู่ในตัวเอง และไม่สามารถผลิตเพิ่มได้เหมือนเงินกระดาษ เมื่อเงินเฟ้อพุ่งสูง เงินสดที่ถือไว้มักสูญเสียกำลังซื้อไปทีละน้อย ผู้คนจึงหันไปหาสินทรัพย์ที่จับต้องได้อย่างทองคำเพื่อปกป้องมูลค่าที่มี
จากข้อมูลในอดีตของ World Gold Council ชี้ให้เห็นว่าทองคำมักให้ผลตอบแทนที่ดีในช่วงเงินเฟ้อ โดยเฉพาะเมื่ออัตราเกิน 3% ต่อปี Gold and inflation: what history tells us ความเชื่อมั่นนี้มาจากมุมมองของนักลงทุนที่เห็นทองคำเป็นเกราะป้องกันที่แข็งแกร่งต่อการเสื่อมถอยของค่าเงินกระดาษ ซึ่งในทางปฏิบัติ เรามักเห็นราคาทองปรับตัวขึ้นเพื่อชดเชยการสูญเสียจากเงินเฟ้อ
ปัจจัยที่ซับซ้อน: ทำไมบางครั้งทองคำก็ไม่ขึ้นในภาวะเงินเฟ้อ?
ถึงแม้ทองคำจะมีจุดเด่นในการป้องกันเงินเฟ้อ แต่ความสัมพันธ์นี้ไม่ได้เป็นเส้นตรงเสมอไป มีองค์ประกอบหลายอย่างที่อาจทำให้ราคาทองไม่พุ่งขึ้น หรือบางทีก็ปรับตัวลงในบางรูปแบบของเงินเฟ้อ
- อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริง: นี่คือตัวแปรหลัก โดยคำนวณจากอัตราดอกเบี้ยหักด้วยอัตราเงินเฟ้อ ถ้าธนาคารกลางเร่งขึ้นดอกเบี้ยเพื่อควบคุมเงินเฟ้อ จนอัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงสูงขึ้น การถือทองคำซึ่งไม่มีดอกเบี้ยตอบแทนจะด้อยโอกาสเมื่อเทียบกับการฝากธนาคารหรือพันธบัตร ส่งผลให้ความน่าสนใจลดลงและกดราคา
- ประเภทของเงินเฟ้อ: แต่ละประเภทส่งผลต่างกัน (จะขยายในส่วนต่อไป)
- ความคาดการณ์เงินเฟ้อ: ราคาทองมักตอบสนองต่อคาดการณ์มากกว่าความเป็นจริง ถ้าตลาดคาดเงินเฟ้อจะรุนแรงในอนาคต ราคาอาจขึ้นก่อน แต่ถ้าเงินเฟ้อเกิดแล้วและธนาคารกลางแสดงท่าทีเข้มงวด ราคาอาจไม่เคลื่อนไหวตามคาด
- ความแข็งแกร่งของเงินดอลลาร์สหรัฐ: ทองคำซื้อขายเป็นดอลลาร์ ถ้าดอลลาร์แข็งค่า ทองจะแพงขึ้นสำหรับผู้ใช้สกุลเงินอื่น ความต้องการลดลงและราคาตก
เจาะลึกปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อราคาทองคำในภาวะเงินเฟ้อ
การรู้จักปัจจัยเหล่านี้จะช่วยให้นักลงทุนชาวไทยวางแผนลงทุนทองคำได้อย่างมีประสิทธิภาพในช่วงเงินเฟ้อ

นโยบายการเงินของธนาคารกลาง
ธนาคารกลางทั่วโลก โดยเฉพาะ Federal Reserve หรือเฟดของสหรัฐ มีอิทธิพลมหาศาลต่อทิศทางราคาทอง การปรับอัตราดอกเบี้ยเพื่อรับมือเงินเฟ้อส่งผลตรงๆ ถ้าเฟดขึ้นดอกเบี้ย ผลตอบแทนจากพันธบัตรหรือสินทรัพย์อื่นๆ ที่ให้ดอกเบี้ยจะสูงขึ้น ทำให้ทองคำซึ่งไร้ดอกเบี้ยดูน่าลงทุนน้อยลงและราคาอาจถูกกด ในทางตรงข้าม ถ้านโยบายผ่อนคลายหรือลดดอกเบี้ย ราคาทองมักมีโอกาสขยับขึ้น
ในไทย ธนาคารแห่งประเทศไทย หรือ ธปท. ก็มีนโยบายที่กระทบค่าเงินบาทและดอกเบี้ยในประเทศ ซึ่งส่งผลทางอ้อมต่อราคาทองในบาท นักลงทุนไทยควรจับตาข่าวจากเฟดและ ธปท. อย่างใกล้ชิด ข้อมูลสถิติเศรษฐกิจและการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย โดยเฉพาะในช่วงที่เงินเฟ้อโลกและในประเทศเชื่อมโยงกันมากขึ้น เช่น จากผลกระทบของราคาน้ำมันโลก
ค่าเงินดอลลาร์และเงินบาท
ราคาทองในตลาดโลกกำหนดด้วยดอลลาร์สหรัฐ ดังนั้นความผันผวนของดอลลาร์จึงเป็นตัวกำหนดหลัก ถ้าดัชนี DXY ซึ่งวัดความแข็งแกร่งของดอลลาร์สูงขึ้น ราคาทองในดอลลาร์มักลดลงเพราะใช้เงินน้อยลงในการซื้อ ในทางกลับกัน ถ้าดอลลาร์อ่อน ราคาทองจะพุ่ง
สำหรับคนไทย ค่าเงินบาทสำคัญไม่แพ้กัน ถ้าบาทอ่อน เช่น จาก 30 บาทต่อดอลลาร์เป็น 35 บาท ต้องใช้บาทมากขึ้นซื้อทองราคาดอลลาร์เดิม ส่งผลให้ราคาทองในไทยขึ้น แม้ราคาโลกจะนิ่งหรือลงเล็กน้อย ถ้าบาทแข็ง ราคาในประเทศก็อาจลงแม้ราคาโลกราคาจะคงที่ ซึ่งในช่วงเงินเฟ้อที่ค่าเงินผันผวน นี่คือปัจจัยที่ต้องเฝ้าดูเพื่อปรับกลยุทธ์
สภาวะเศรษฐกิจโลกและความไม่แน่นอน
ทองคำคือที่หลบภัยยอดนิยมเมื่อเศรษฐกิจโลกเต็มไปด้วยความไม่แน่นอน วิกฤตการเงิน ความขัดแย้งทางการเมือง หรือการชะลอตัวของเศรษฐกิจ มักดึงดูดนักลงทุนให้เข้าซื้อทองเพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงจากหุ้นหรือพันธบัตร ในช่วงเงินเฟ้อสูงที่มาพร้อมความผันผวน ทองคำจึงมีโอกาสปรับขึ้นมากกว่า เพราะบทบาทที่เก็บมูลค่าของมันจะชัดเจนยิ่งขึ้น เช่น ในช่วงโควิดที่ผ่านมา เรเห็นราคาทองพุ่งจากความไม่แน่นอนเหล่านี้
ประเภทของเงินเฟ้อและผลกระทบต่อทองคำ
การแยกแยะประเภทเงินเฟ้อจะช่วยให้นักลงทุนคาดเดาการเคลื่อนไหวของทองคำได้แม่นยำกว่าเดิม
เงินเฟ้อจากอุปสงค์
เงินเฟ้อแบบนี้เกิดเมื่อความต้องการสินค้าและบริการในเศรษฐกิจสูงกว่ากำลังผลิต ส่งผลให้ราคาพุ่ง มักเกิดในช่วงเศรษฐกิจเติบโตดี การจ้างงานสูง และผู้คนมีเงินใช้จ่ายมาก
ในกรณีนี้ ทองคำมักทำผลงานได้ดี เพราะนักลงทุนยังมั่นใจในเศรษฐกิจพอสมควร แต่หันมาลงทุนในสินทรัพย์ที่รักษามูลค่าได้ท่ามกลางค่าเงินที่อ่อนลง แถมเงินส่วนเกินจากผู้บริโภคที่ร่ำรวยขึ้นอาจไหลเข้าตลาดทองด้วย
เงินเฟ้อจากต้นทุน
เกิดจากต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้น เช่น ราคาน้ำมัน ค่าแรง หรือวัตถุดิบ ผู้ผลิตจึงขึ้นราคาสินค้าเพื่อชดเชย มักพบในช่วงเศรษฐกิจชะงักงันหรือ stagflation
ทองคำอาจเจออุปสรรคมากกว่าในสถานการณ์นี้ โดยเฉพาะถ้าเงินเฟ้อมาพร้อมเศรษฐกิจถดถอย ธนาคารกลางอาจลังเลที่จะขึ้นดอกเบี้ยเพราะกลัวกระทบเศรษฐกิจยิ่งกว่า ถ้าขึ้นดอกเบี้ยแรงเพื่อสกัดเงินเฟ้อ ราคาทองก็ถูกกดดัน นอกจากนี้ ถ้าสินค้าโภคภัณฑ์อื่นอย่างน้ำมันพุ่ง นักลงทุนบางคนอาจหันไปลงทุนตรงนั้นแทนทอง
กลยุทธ์การลงทุนทองคำในภาวะเงินเฟ้อสำหรับนักลงทุนไทย
การลงทุนทองในยุคเงินเฟ้อต้องอาศัยการวิเคราะห์รอบด้าน ไม่ใช่แค่ตามกระแสตลาด
การประเมินสถานการณ์เงินเฟ้อ
นักลงทุนไทยควรวิเคราะห์ว่าเงินเฟ้อปัจจุบันเป็นแบบไหน ระหว่างจากอุปสงค์หรือต้นทุน และจะรุนแรงนานแค่ไหน การติดตามข้อมูลจาก ธปท. ข้อมูลสถิติเศรษฐกิจและการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย หรือหน่วยงานอย่าง Krungthai COMPASS และ SCB EIC จะช่วยให้ตัดสินใจดีขึ้น ถ้าเงินเฟ้อจากอุปสงค์ที่แข็งแกร่ง ทองคือตัวเลือกหลัก แต่ถ้าจากต้นทุนที่พุ่งและเศรษฐกิจชะลอ ต้องดูปัจจัยอื่นประกอบ เช่น ในไทยที่เงินเฟ้ออาจมาจากราคาพลังงานนำเข้า
การพิจารณาระยะเวลาลงทุน
สำหรับการป้องกันเงินเฟ้อระยะยาว ทองยังคงน่าเชื่อถือเพราะประวัติศาสตร์ที่พิสูจน์แล้ว แต่ในระยะสั้น ราคาผันผวนจากดอกเบี้ย ค่าเงิน หรือข่าวภูมิรัฐศาสตร์ ทำให้คาดเดายาก การลงทุนยาวเพื่อกระจายความเสี่ยงและรักษามูลค่าจึงเหนือกว่าเก็งกำไรสั้นๆ
เปรียบเทียบทองคำกับสินทรัพย์ป้องกันเงินเฟ้ออื่นๆ ในไทย
นอกจากทอง นักลงทุนไทยมีตัวเลือกอื่นเพื่อกระจายความเสี่ยง ดังตารางเปรียบเทียบพื้นฐาน
| สินทรัพย์ป้องกันเงินเฟ้อ | ลักษณะเด่น | ข้อดีในบริบทไทย | ข้อจำกัด/ความเสี่ยง |
|---|---|---|---|
| ทองคำ | สินทรัพย์ปลอดภัย, มีมูลค่าในตัวเอง | ซื้อขายง่าย, เป็นที่นิยม, มีทองคำแท่งและรูปพรรณ | ไม่มีผลตอบแทนดอกเบี้ย, ราคามีความผันผวนสูง, ค่าเงินบาทมีผลมาก |
| อสังหาริมทรัพย์ | มูลค่ามักเพิ่มขึ้นตามเงินเฟ้อ, มีกระแสรายได้ (ค่าเช่า) | ตลาดมีความต้องการสูงในทำเลดี, ให้ผลตอบแทนทั้ง Capital Gain และ Rental Yield | ใช้เงินลงทุนสูง, สภาพคล่องต่ำ, ค่าบำรุงรักษา, ความเสี่ยงด้านกฎหมายและทำเล |
| กองทุนรวมสินค้าโภคภัณฑ์ | ลงทุนในวัตถุดิบที่ราคามักขึ้นตามเงินเฟ้อ | กระจายความเสี่ยงได้ดี, ใช้เงินลงทุนน้อยกว่าซื้อโดยตรง | ราคามีความผันผวนสูง, ขึ้นอยู่กับเศรษฐกิจโลก, ไม่มีเงินปันผลประจำ |
| พันธบัตรชดเชยเงินเฟ้อ | ผลตอบแทนปรับตามอัตราเงินเฟ้อ (เช่น TIPS) | รักษากำลังซื้อได้ดี | ผลตอบแทนอาจไม่สูงนักหากเงินเฟ้อไม่พุ่งมาก, สภาพคล่องอาจไม่สูงเท่าพันธบัตรปกติ |
การเลือกควรพิจารณาจากเป้าหมาย ความเสี่ยงที่ยอมรับได้ และความรู้ในสินทรัพย์นั้นๆ การกระจายลงทุนหลายประเภทจะช่วยลดความเสี่ยงโดยรวมได้ดีที่สุด
ข้อควรระวังและความเสี่ยงในการลงทุนทองคำช่วงเงินเฟ้อ
แม้ทองคำจะช่วยป้องกันเงินเฟ้อ แต่ก็มีจุดอ่อนที่นักลงทุนต้องระวัง
- ความผันผวนของราคา: ราคาอาจแกว่งตัวแรงในระยะสั้นจากนโยบายธนาคารกลาง ข่าวเศรษฐกิจ หรือค่าเงิน
- ไม่มีผลตอบแทนดอกเบี้ย/เงินปันผล: ทองไม่สร้างรายได้ประจำ ผลตอบแทนมาจากราคาขึ้นเท่านั้น
- ต้นทุนการเก็บรักษา: การถือทองแท่งหรือรูปพรรณต้องมีที่เก็บปลอดภัย ซึ่งมีค่าใช้จ่าย
- สภาพคล่อง: การขายทองจำนวนมากอาจลำบากในตลาดผันผวน
- ความเสี่ยงจากค่าเงินบาท: ถ้าบาทแข็ง ราคาทองในไทยลงแม้ราคาโลกราคาจะขึ้น
- ความเสี่ยงจากภาวะ Stagflation: ถ้าเงินเฟ้อมาพร้อมถดถอย ทองอาจไม่ป้องกันได้เต็มประสิทธิภาพ ถ้าธนาคารกลางขึ้นดอกเบี้ยแรง
การกระจายความเสี่ยงโดยลงทุนหลายสินทรัพย์จะช่วยจัดการพอร์ตได้ดีกว่า
บทสรุป: มุมมองต่อทองคำในอนาคตภายใต้แรงกดดันเงินเฟ้อ
ทองคำยังคงเป็นส่วนสำคัญในพอร์ตลงทุน โดยเฉพาะในการรับมือเงินเฟ้อและความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ แม้ความเชื่อมโยงกับเงินเฟ้อจะซับซ้อนจากปัจจัยอย่างดอกเบี้ย นโยบายธนาคารกลาง และค่าเงินดอลลาร์กับบาท
สำหรับนักลงทุนไทย การเข้าใจประเภทเงินเฟ้อ สถานการณ์เศรษฐกิจในและต่างประเทศ รวมถึงการเปรียบเทียบกับสินทรัพย์อื่น จะช่วยตัดสินใจได้รอบคอบยิ่งขึ้น ทองควรเป็นส่วนหนึ่งของแผนกระจายความเสี่ยงระยะยาว เพื่อปกป้องมูลค่าเงินออมท่ามกลางแรงกดดันจากเงินเฟ้อที่ยังคงอยู่
คำถามที่พบบ่อย (FAQs)
เงินเฟ้อสูงมาก ทองคำจะขึ้นหรือลงเสมอไปหรือไม่?
ไม่เสมอไปครับ โดยทั่วไปแล้วทองคำมีแนวโน้มขึ้นในภาวะเงินเฟ้อสูง แต่ปัจจัยอื่นๆ เช่น การขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางอย่างรวดเร็วเพื่อสกัดเงินเฟ้อ หรือการแข็งค่าของเงินดอลลาร์ ก็อาจกดดันราคาทองคำไม่ให้ขึ้น หรืออาจจะลดลงได้เช่นกัน
ทำไมบางครั้งเงินบาทอ่อนค่า แต่ราคาทองในประเทศกลับไม่ขึ้นมากเท่าที่ควร?
สาเหตุหลักมักมาจากการที่ราคาทองคำในตลาดโลก (ที่ซื้อขายเป็นดอลลาร์) ปรับตัวลงพร้อมๆ กัน หรือปัจจัยอื่นๆ ที่เข้ามาหักล้างผลบวกจากการอ่อนค่าของเงินบาท เช่น ธนาคารกลางสหรัฐฯ มีท่าทีแข็งกร้าวในการขึ้นดอกเบี้ย ทำให้ทองคำในตลาดโลกน่าสนใจน้อยลง
ควรลงทุนทองคำแบบไหนในช่วงเงินเฟ้อ (ทองแท่ง, กองทุน, หรือรูปพรรณ) สำหรับนักลงทุนไทย?
ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์:
- ทองแท่ง: เหมาะสำหรับลงทุนเพื่อรักษามูลค่าระยะยาว ซื้อขายง่าย มีค่าธรรมเนียมการซื้อขายน้อย
- กองทุนรวมทองคำ/ETF ทองคำ: เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความสะดวก ไม่ต้องเก็บทองเอง กระจายความเสี่ยงได้ดี
- ทองรูปพรรณ: เหมาะสำหรับใส่ประดับ แต่ไม่เหมาะกับการลงทุนเท่าทองแท่ง เพราะมีค่ากำเหน็จที่สูงกว่าราคาเนื้อทองมาก ทำให้เมื่อขายคืนจะได้ราคาต่ำกว่า
นอกจากทองคำแล้ว มีสินทรัพย์อะไรอีกบ้างที่คนไทยนิยมใช้ป้องกันเงินเฟ้อ?
สินทรัพย์อื่นๆ ที่คนไทยนิยมใช้ป้องกันเงินเฟ้อ ได้แก่ อสังหาริมทรัพย์ (เช่น ที่ดิน คอนโด), กองทุนรวมสินค้าโภคภัณฑ์ (Commodity Funds) หรือพันธบัตรชดเชยเงินเฟ้อ (Inflation-linked Bonds) ที่มีให้เลือกในตลาดไทยบางส่วน
ธนาคารแห่งประเทศไทยมีนโยบายอย่างไรที่อาจส่งผลต่อราคาทองคำในประเทศช่วงเงินเฟ้อ?
ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จะใช้นโยบายการเงิน เช่น การปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบาย เพื่อควบคุมเงินเฟ้อ หาก ธปท. ขึ้นดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ อาจส่งผลให้เงินบาทแข็งค่าขึ้น ซึ่งจะกดดันราคาทองคำในประเทศ ในทางกลับกัน หาก ธปท. ลดดอกเบี้ย ก็อาจทำให้เงินบาทอ่อนค่าและหนุนราคาทองได้
นักลงทุนมือใหม่ควรเริ่มต้นลงทุนทองคำอย่างไรในภาวะเงินเฟ้อ?
นักลงทุนมือใหม่ควรเริ่มต้นศึกษาข้อมูลให้รอบด้าน ทำความเข้าใจความสัมพันธ์ของทองคำกับเงินเฟ้อและปัจจัยอื่นๆ พิจารณาสัดส่วนการลงทุนที่เหมาะสมกับความเสี่ยงที่รับได้ และอาจเริ่มต้นด้วยการลงทุนในกองทุนรวมทองคำ หรือทยอยซื้อทองคำแท่งในปริมาณน้อยๆ จากร้านทองที่น่าเชื่อถือ เช่น Aurora Gold หรือ MTS Gold
การซื้อขายทองคำในตลาดโลก (เช่น COMEX) ส่งผลต่อราคาทองในไทยอย่างไร?
ตลาดโลกอย่าง COMEX เป็นตลาดหลักที่กำหนดราคาทองคำอ้างอิงเป็นสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ราคาทองคำในประเทศไทยจะอ้างอิงจากราคาตลาดโลกนี้ แล้วนำมาแปลงเป็นเงินบาทตามอัตราแลกเปลี่ยนปัจจุบัน ดังนั้นการเคลื่อนไหวของราคาทองในตลาดโลกจึงส่งผลโดยตรงต่อราคาทองในไทย
ควรติดตามข่าวสารหรือปัจจัยใดเป็นพิเศษเพื่อตัดสินใจลงทุนทองคำช่วงเงินเฟ้อ?
ควรติดตามข่าวสารและปัจจัยหลักดังนี้:
- อัตราเงินเฟ้อ: ทั้งในไทยและสหรัฐฯ
- นโยบายการเงิน: แถลงการณ์จากเฟดและ ธปท. เกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ย
- ค่าเงิน: ความเคลื่อนไหวของเงินดอลลาร์สหรัฐฯ และเงินบาท
- เศรษฐกิจโลก: ภาวะเศรษฐกิจถดถอย, ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์
- ราคาน้ำมันและสินค้าโภคภัณฑ์อื่นๆ: อาจส่งผลต่อเงินเฟ้อจากต้นทุน
หากเงินเฟ้อเกิดขึ้นแต่เศรษฐกิจถดถอย (Stagflation) ทองคำจะทำหน้าที่อย่างไร?
ในภาวะ Stagflation (เงินเฟ้อสูง + เศรษฐกิจถดถอย) ทองคำมักจะทำหน้าที่ได้ดีในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย เนื่องจากนักลงทุนมองหาที่พึ่งในยามที่เศรษฐกิจไม่แน่นอนและค่าเงินด้อยลงจากเงินเฟ้อ อย่างไรก็ตาม หากธนาคารกลางจำเป็นต้องขึ้นดอกเบี้ยอย่างรุนแรงเพื่อสกัดเงินเฟ้อ ก็อาจเป็นปัจจัยกดดันราคาทองคำได้เช่นกัน
การลงทุนทองคำมีข้อควรระวังหรือความเสี่ยงอะไรบ้างที่คนไทยควรรู้?
ข้อควรระวังและคามเสี่ยงสำหรับคนไทย ได้แก่ ความผันผวนของราคา, ไม่มีผลตอบแทนดอกเบี้ย, ค่าธรรมเนียมการซื้อขายและค่ากำเหน็จ (สำหรับทองรูปพรรณ), ความเสี่ยงจากการแข็งค่าของเงินบาท, ความเสี่ยงในการเก็บรักษา (สำหรับทองแท่ง), และความเสี่ยงจากร้านค้าทองที่ไม่น่าเชื่อถือ ควรเลือกซื้อจากร้านทองที่มีชื่อเสียงและได้มาตรฐาน