กรีซ ดินแดนที่เต็มไปด้วยตำนานเทพเจ้าและมรดกทางวัฒนธรรมโบราณ ถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวในฝันสำหรับนักเดินทางทั่วโลก โดยเฉพาะชาวไทยที่หลงใหลในเสน่ห์ของแผ่นดินนี้ หากคุณกำลังวางแผนทริปไปยังประเทศที่มีทั้งประวัติศาสตร์ยาวนานและวิวสวยงามแบบนี้ การรู้จักเรื่องค่าเงินกรีซให้ละเอียดย่อมช่วยให้การเดินทางราบรื่นและไม่ต้องกังวลเรื่องเงินทอง บทความนี้จะพาคุณเจาะลึกทุกแง่มุมเกี่ยวกับสกุลเงินที่ใช้ในกรีซปัจจุบัน การเปลี่ยนผ่านจากดรักม่ามายังยูโร อัตราแลกเปลี่ยนกับเงินบาท รวมถึงเคล็ดลับการใช้เงินและค่าใช้จ่ายทั่วไป เพื่อให้นักท่องเที่ยวไทยเตรียมตัวด้านการเงินได้อย่างพร้อมเพรียง

สกุลเงินที่ใช้ในกรีซยุคปัจจุบัน: ยูโร (€)
ในปัจจุบัน กรีซนำเงินยูโร (€) มาใช้เป็นสกุลเงินหลักอย่างเป็นทางการ ตั้งแต่ที่เข้าร่วมยูโรโซนอย่างสมบูรณ์ในปี 2002 เป็นต้นมา สกุลเงินนี้เป็นของร่วมกันในหมู่ประเทศสมาชิกสหภาพยุโรปหลายแห่ง ทำให้การท่องเที่ยวและค้าขายข้ามพรมแดนในยุโรปง่ายดายและสะดวกสบายยิ่งขึ้น

ธนบัตรยูโรรูปแบบต่างๆ มีทั้งหมด 7 ชนิด ไล่ตั้งแต่ 5, 10, 20, 50, 100, 200 และ 500 ยูโร แต่ละแบบจะมีสีสันและขนาดที่แตกต่าง เพื่อให้จำง่าย และพิมพ์ภาพสถาปัตยกรรมสมมติจากยุคต่างๆ ในยุโรป เพื่อรักษาความเป็นกลางระหว่างประเทศ ส่วนเหรียญกษาปณ์มี 8 ชนิด ได้แก่ 1, 2, 5, 10, 20, 50 เซนต์ รวมถึง 1 และ 2 ยูโร ด้านหน้าเป็นลายมาตรฐานของยูโรโซน แต่ด้านหลังจะมีลวดลายเฉพาะตัวของแต่ละชาติ สำหรับกรีซ มักเป็นสัญลักษณ์ที่สะท้อนประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมกรีก เช่น ภาพเทพเจ้าโบราณ
การใช้เงินยูโรในกรีซนั้นคล้ายคลึงกับประเทศอื่นๆ ในยูโรโซน ไม่ว่าจะเป็นการซื้อของ ทำธุรกรรมธนาคาร หรือแลกเปลี่ยนเงิน ชาวไทยที่มาเที่ยวจึงควรเตรียมแลกยูโรไว้ล่วงหน้า เพื่อความคล่องตัวในการใช้จ่าย
ย้อนประวัติศาสตร์: การเปลี่ยนจากดรักม่ามายังยูโร (พร้อมไทม์ไลน์)
ก่อนหน้านี้ กรีซมีสกุลเงินประจำชาติที่สืบทอดมายาวนานกว่า 2,500 ปี นั่นคือดรักมา (Drachma) ซึ่งมีร่องรอยตั้งแต่สมัยกรีกโบราณ สกุลเงินนี้ไม่เพียงเป็นเครื่องมือทางเศรษฐกิจ แต่ยังสะท้อนวัฒนธรรมกรีกผ่านหลายยุคสมัย

จุดเปลี่ยนครั้งใหญ่เกิดขึ้นในช่วงปลายคริสต์ศตวรรษที่ 20 เมื่อกรีซเริ่มกระบวนการเข้าร่วมสหภาพเศรษฐกิจและการเงินยุโรป (EMU) ซึ่งนำไปสู่การรับใช้ยูโรในที่สุด มาดูไทม์ไลน์สำคัญที่ช่วยให้เห็นภาพชัดเจน:
| ปี | เหตุการณ์สำคัญ |
|---|---|
| 1999 | เงินยูโรถูกนำมาใช้เป็นสกุลเงินทางบัญชีและสำหรับการทำธุรกรรมที่ไม่ใช่เงินสดในกลุ่มประเทศยูโรโซน (รวมถึงกรีซในฐานะสมาชิกเตรียมพร้อม) อัตราแลกเปลี่ยนระหว่างดรักมากับยูโรถูกกำหนดตายตัวที่ 1 ยูโร = 340.750 ดรักมา |
| 2001 | กรีซผ่านเกณฑ์และได้รับการอนุมัติให้เป็นสมาชิกเต็มตัวของยูโรโซนอย่างเป็นทางการ |
| 1 มกราคม 2002 | ธนบัตรและเหรียญกษาปณ์เงินยูโรเริ่มนำออกใช้หมุนเวียนในกรีซ ควบคู่ไปกับเงินดรักมา |
| 28 กุมภาพันธ์ 2002 | เงินดรักมาสิ้นสุดสถานะการเป็นเงินที่ใช้ชำระหนี้ตามกฎหมาย (legal tender) โดยสมบูรณ์ และเงินยูโรกลายเป็นสกุลเงินทางการเพียงหนึ่งเดียวของกรีซ |
การเปลี่ยนผ่านนี้มีเป้าหมายหลักเพื่อสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจ ลดความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนที่ผันผวน และกระตุ้นการรวมตัวทางเศรษฐกิจในยุโรป แม้ดรักมาจะเลิกใช้ไปแล้ว แต่ชื่อเสียงและคุณค่าทางประวัติศาสตร์ของมันยังคงอยู่กับกรีซเสมอ
อัตราแลกเปลี่ยนระหว่างยูโรร (ค่าเงินกรีซ) กับเงินบาทไทย
สำหรับนักท่องเที่ยวชาวไทยที่เตรียมตัวไปกรีซ การติดตามอัตราแลกเปลี่ยนระหว่างยูโรกับบาทไทยเป็นเรื่องที่ขาดไม่ได้ เพราะตัวเลขเหล่านี้เปลี่ยนแปลงตามสถานการณ์เศรษฐกิจโลกและนโยบายของแต่ละประเทศ
ปัจจัยที่ทำให้อัตราแลกเปลี่ยนสั่นคลอน ได้แก่ ดอกเบี้ย เงินเฟ้อ การขยายตัวทางเศรษฐกิจ สถานการณ์การเมือง และความต้องการในตลาด การเช็คข้อมูลแบบเรียลไทม์จึงช่วยให้คุณได้อัตราที่คุ้มค่าที่สุดเสมอ
แหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือสำหรับตรวจสอบอัตราแลกเปลี่ยน:
- เว็บไซต์ของ ธนาคาร พาณิชย์ขนาดใหญ่ใน ประเทศไทย เช่น ธนาคารกสิกรไทย (Kasikornbank), ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB), ธนาคารกรุงเทพ
- เว็บไซต์ของร้านรับแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศที่มีชื่อเสียง เช่น SuperRich Thailand
- แอปพลิเคชันหรือเว็บไซต์ของสถาบันการเงินที่ให้บริการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ
เพื่อประโยชน์สูงสุด ควรแลกยูโรในประเทศไทยก่อนออกเดินทาง โดยลองเปรียบเทียบอัตราจากหลายที่ เพื่อหลีกเลี่ยงค่าธรรมเนียมที่สูงและได้ราคาดี
| สถาบัน/บริการ | ข้อดี | ข้อควรพิจารณา |
|---|---|---|
| ธนาคารพาณิชย์ในไทย | สะดวก มีสาขามาก | อัตราแลกเปลี่ยนอาจไม่ดีเท่าร้านแลกเงินเฉพาะทาง, ค่าธรรมเนียมอาจสูง |
| ร้านรับแลกเงิน SuperRich | มักให้อัตราแลกเปลี่ยนที่ดีกว่าธนาคาร | มีสาขาจำกัดในเมืองใหญ่, ต้องเดินทางไปแลกด้วยตัวเอง |
| บัตร Travel Card (Multi-currency card) | แลกเงินเก็บไว้ในบัตรได้ล่วงหน้า, ใช้รูดซื้อของและกด ATM ได้ | อาจมีค่าธรรมเนียมการกด ATM ต่างประเทศ, บางร้านอาจไม่รับ |
เคล็ดลับการใช้จ่ายเงินในกรีซสำหรับนักท่องเที่ยวไทย
พอถึงกรีซแล้ว การบริหารเงินให้ฉลาดย่อมช่วยให้ทริปสนุกและไม่สะดุด นี่คือคำแนะนำที่ออกแบบมาสำหรับนักท่องเที่ยวไทยโดยเฉพาะ เพื่อให้คุณจัดการการเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพ
เงินสดเทียบกับบัตรเครดิต/เดบิต
- ในเมืองใหญ่ (เอเธนส์, เทสซาโลนิกี): ร้านค้า ร้านอาหาร โรงแรมส่วนใหญ่รับ บัตรเครดิต และ บัตรเดบิต อย่างแพร่หลาย การใช้บัตรเป็นวิธีที่สะดวกและปลอดภัย ลดความจำเป็นในการพกเงินสดจำนวนมาก
- บนเกาะและพื้นที่ห่างไกล: ร้านค้าขนาดเล็ก เกสต์เฮาส์ หรือร้านอาหารท้องถิ่นบางแห่ง โดยเฉพาะบนเกาะเล็กๆ อาจรับเฉพาะ เงินสด เท่านั้น ควรมีเงินสดติดตัวไว้ในปริมาณที่เหมาะสมสำหรับค่าใช้จ่ายเล็กๆ น้อยๆ หรือในกรณีที่เครื่องรูดบัตรมีปัญหา
การใช้ ATM
ตู้ ATM กระจายตัวอยู่ทั่วไปในเมืองหลักและจุดท่องเที่ยวสำคัญ เมื่อกดเงินในกรีซ คุณจะได้ยูโรออกมาโดยตรง แต่ต้องระวังค่าธรรมเนียมที่อาจเกิดขึ้น ซึ่งรวมถึง:
- ค่าธรรมเนียมที่เรียกเก็บโดยธนาคารเจ้าของบัตรในประเทศไทย
- ค่าธรรมเนียมที่เรียกเก็บโดยธนาคารเจ้าของตู้ ATM ในกรีซ
- ค่าธรรมเนียมอัตราแลกเปลี่ยน (Dynamic Currency Conversion – DCC) ควรเลือกชำระเป็นสกุลเงินท้องถิ่น (€) เสมอเมื่อมีตัวเลือก เพื่อหลีกเลี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนที่ไม่เป็นธรรม
วัฒนธรรมการให้ทิป (Tip)
ธรรมเนียมการให้ทิปในกรีซแตกต่างจากไทยนิดหน่อย และไม่ใช่เรื่องที่บังคับต้องทำทุกครั้งเหมือนบางประเทศ:
- ร้านอาหาร/คาเฟ่: หากคุณพอใจในการบริการ สามารถปัดเศษขึ้นหรือทิ้งทิปเล็กน้อยประมาณ 5-10% ของค่าอาหาร โดยเฉพาะในร้านอาหารที่บริการดีเยี่ยม
- แท็กซี่: มักจะปัดเศษค่าโดยสารขึ้นให้เป็นจำนวนเต็มยูโร
- โรงแรม: การให้ทิปพนักงานยกกระเป๋าหรือพนักงานทำความสะอาดเล็กน้อย (เช่น 1-2 ยูโร) ถือเป็นเรื่องปกติ
ข้อควรระวัง
- ระวังการโจรกรรมหรือล้วงกระเป๋า โดยเฉพาะในแหล่งท่องเที่ยวที่มีผู้คนพลุกพล่าน
- แจ้งธนาคารผู้ออกบัตรเครดิต/เดบิตของคุณก่อนเดินทาง เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาการบล็อกบัตรเนื่องจากกิจกรรมที่ผิดปกติ
- เก็บเงินสด บัตรเครดิต และเอกสารสำคัญไว้ในที่ปลอดภัยและแยกจากกัน
ค่าใช้จ่ายในกรีซ: เปรียบเทียบกับประเทศไทย
การรู้จักค่าใช้จ่ายในกรีซและเทียบกับไทยจะช่วยให้นักท่องเที่ยวไทยวางงบประมาณได้อย่างแม่นยำ โดยรวมแล้ว ค่าใช้จ่ายในกรีซ โดยเฉพาะในเมืองใหญ่และจุดฮิต มักสูงกว่าไทยในระดับปานกลาง ซึ่งมาจากความแตกต่างทางเศรษฐกิจและต้นทุนท่องเที่ยว
| ประเภทค่าใช้จ่าย | กรีซ (เอเธนส์/ซานโตรินี) | ประเทศไทย (กรุงเทพฯ/ภูเก็ต) | หมายเหตุ |
|---|---|---|---|
| อาหาร (มื้อปกติ) | €10-20 (ประมาณ 380-760 บาท) | ฿80-200 | อาหารตามร้านอาหารทั่วไปในกรีซแพงกว่าไทย แต่ถ้าเป็นอาหารท้องถิ่นหรือซื้อของสดมาทำเองจะประหยัดขึ้น |
| ที่พัก (โรงแรมระดับกลาง 1 คืน) | €60-150 (ประมาณ 2,280-5,700 บาท) | ฿1,000-3,000 | ที่พักในกรีซมีราคาหลากหลาย ขึ้นอยู่กับสถานที่และฤดูกาล โดยเฉพาะบนเกาะยอดนิยมอย่างซานโตรินีจะสูงมาก |
| การเดินทาง (ค่ารถเมล์/เมโทร 1 เที่ยว) | €1.20-1.40 (ประมาณ 45-53 บาท) | ฿8-40 | ค่าขนส่งสาธารณะในกรีซค่อนข้างสมเหตุสมผลสำหรับยุโรป |
| เครื่องดื่ม (กาแฟ/เบียร์) | กาแฟ €3-5, เบียร์ €4-6 | กาแฟ ฿50-120, เบียร์ ฿80-150 | ราคาเครื่องดื่มในร้านคาเฟ่และบาร์ในกรีซสูงกว่าไทยเล็กน้อย |
(อ้างอิงข้อมูลจาก Numbeo และประสบการณ์การเดินทางโดยประมาณ)
เคล็ดลับการประหยัดเงินในกรีซ
- อาหาร: ลองทานอาหารท้องถิ่นตามร้าน Tavernas ที่ชาวบ้านนิยม หรือซื้อวัตถุดิบจากซูเปอร์มาร์เก็ตมาทำอาหารเองหากพักในที่พักที่มีครัว
- ที่พัก: จองที่พักล่วงหน้า โดยเฉพาะในช่วงฤดูท่องเที่ยว หลีกเลี่ยงเกาะยอดนิยมในช่วงไฮซีซั่น หรือพิจารณาที่พักแบบ AirBnB หรือโฮสเทล
- การเดินทาง: ใช้ระบบขนส่งสาธารณะ (รถเมล์, เมโทร, รถไฟ) ในเมืองใหญ่ ซึ่งมีราคาถูกกว่าแท็กซี่มาก
- กิจกรรม: มองหากิจกรรมฟรี เช่น เดินชมเมือง เยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ในวันฟรีเข้าชม หรือเที่ยวชมชายหาดสาธารณะ
วิกฤตหนี้กรีซและผลต่อเงินยูโร (สรุปสั้นๆ)
วิกฤตหนี้กรีซที่เกิดขึ้นระหว่างปี 2010-2018 ถือเป็นเหตุการณ์ใหญ่ที่สั่นคลอนเศรษฐกิจกรีซและสร้างความกังวลให้ยูโรโซนทั้งหมด สาเหตุหลักมาจากหนี้สาธารณะมหาศาลที่สะสมจากการใช้จ่ายรัฐบาลเกินตัว การเก็บภาษีที่ไม่มีประสิทธิภาพ และการบริหารงบที่พลาดพลั้ง
เมื่อกรีซไม่สามารถผ่อนชำระหนี้ได้ตามกำหนด ส่งผลให้ตลาดการเงินขาดความเชื่อมั่น และเกิดคำถามถึงความมั่นคงของยูโรในฐานะสกุลเงินร่วม กรีซจึงได้รับแพ็กเกจช่วยเหลือหลายครั้งจากสหภาพยุโรปและกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) โดยแลกกับการปรับโครงสร้างเศรษฐกิจที่เข้มงวด เช่น ลดการใช้จ่าย
แม้สถานการณ์จะคลี่คลายและกรีซกลับมาทำธุรกรรมในตลาดปกติ แต่ร่องรอยของวิกฤตยังหลงเหลือในเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวช้าๆ ทว่าทิศทางกำลังดีขึ้น ปัจจุบันยูโรยังคงแข็งแกร่งภายใต้การดูแลของธนาคารกลางยุโรป (European Central Bank) และกรีซก็ยังเป็นส่วนหนึ่งของยูโรโซนอย่างมั่นคง
สรุป: เตรียมการเงินให้พร้อมสำหรับทริปกรีซ
การไปกรีซจะกลายเป็นความทรงจำอันน่าประทับใจ หากคุณวางแผนการเงินไว้ดี สิ่งที่ต้องจำคือกรีซใช้ยูโรเป็นสกุลเงินหลัก ดังนั้นการแลกยูโรในไทยล่วงหน้าจะช่วยให้ได้อัตราที่ดีที่สุด
นักท่องเที่ยวควรจัดสรรเงินระหว่างเงินสดกับบัตรเครดิตหรือเดบิต เพื่อความยืดหยุ่นและปลอดภัย นอกจากนี้ การศึกษาค่าใช้จ่ายทั่วไปและธรรมเนียมทิปจะช่วยให้ใช้เงินอย่างเหมาะสม การเตรียมตัวแบบนี้จะทำให้คุณเพลิดเพลินกับความงามของกรีซได้เต็มที่ โดยไม่ต้องห่วงเรื่องงบ
ปัจจุบันกรีซใช้เงินสกุลอะไร?
ปัจจุบันกรีซใช้ เงินยูโร (€) เป็นสกุลเงินทางการ นับตั้งแต่ปี 2002 เป็นต้นมา
สามารถแลกเงินยูโรเป็นบาทไทยได้ที่ไหนบ้างในประเทศไทย?
คุณสามารถแลกเงินยูโรเป็นบาทไทยได้ที่:
- ธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ เช่น ธนาคารกสิกรไทย, ธนาคารไทยพาณิชย์, ธนาคารกรุงเทพ
- ร้านรับแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ เช่น SuperRich Thailand
- บริการแลกเปลี่ยนเงินออนไลน์หรือแอปพลิเคชันของธนาคาร
ควรเปรียบเทียบอัตราแลกเปลี่ยนก่อนตัดสินใจ เพื่อให้ได้ราคาที่ดีที่สุด
ค่าครองชีพในกรีซแพงกว่าประเทศไทยมากน้อยแค่ไหน?
โดยทั่วไปแล้ว ค่าครองชีพในกรีซ โดยเฉพาะในเมืองใหญ่และแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ มักจะสูงกว่า ประเทศไทย เล็กน้อยถึงปานกลาง ทั้งในเรื่องของค่าอาหาร ที่พัก และการเดินทาง
การใช้บัตรเครดิตหรือเดบิตในกรีซปลอดภัยหรือไม่ มีข้อควรระวังอะไรบ้าง?
การใช้บัตรเครดิตหรือเดบิตในกรีซส่วนใหญ่ปลอดภัย โดยเฉพาะในเมืองใหญ่และสถานประกอบการที่มีชื่อเสียง อย่างไรก็ตาม ควรระวัง:
- แจ้งธนาคารผู้ออกบัตรก่อนเดินทาง
- เลือกชำระเป็นสกุลเงินยูโร (€) เมื่อมีตัวเลือก (หลีกเลี่ยง DCC)
- ตรวจสอบยอดเงินในใบเสร็จให้ถูกต้อง
- ระวังการโจรกรรมข้อมูลบัตรในร้านค้าที่ไม่น่าเชื่อถือ
เงินดรักมาคืออะไร และกรีซเปลี่ยนมาใช้ยูโรเมื่อไหร่?
เงินดรักมา (Drachma) คือสกุลเงินประจำชาติเก่าแก่ของกรีซที่ใช้มานานหลายศตวรรษ กรีซเปลี่ยนมาใช้เงินยูโร อย่างเต็มตัวตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2002 โดยเงินดรักมาสิ้นสุดสถานะการเป็นเงินที่ใช้ชำระหนี้ตามกฎหมายในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2002
ควรแลกเงินสดไปกรีซจำนวนเท่าใดถึงจะเพียงพอสำหรับนักท่องเที่ยวไทย?
จำนวนเงินสดที่ควรแลกขึ้นอยู่กับแผนการใช้จ่ายส่วนบุคคล แนะนำให้พกเงินสดประมาณ 100-200 ยูโรต่อคนต่อสัปดาห์ สำหรับค่าใช้จ่ายเล็กๆ น้อยๆ ค่าอาหารในร้านเล็กๆ หรือในกรณีที่เดินทางไปยังพื้นที่ห่างไกลที่ไม่สะดวกในการใช้บัตร ส่วนค่าใช้จ่ายที่มากกว่านั้นสามารถใช้บัตรเครดิต/เดบิตได้
มีข้อควรระวังอะไรบ้างเกี่ยวกับการใช้จ่ายเงินในกรีซสำหรับนักท่องเที่ยวชาวไทย?
ข้อควรระวังสำหรับนักท่องเที่ยวชาวไทย ได้แก่:
- ระวังมิจฉาชีพและการล้วงกระเป๋าในที่สาธารณะ
- ตรวจสอบอัตราแลกเปลี่ยนก่อนแลกเงิน
- หลีกเลี่ยงการแลกเงินที่สนามบิน เพราะมักให้อัตราที่ไม่ดี
- เก็บเงินสด บัตร และเอกสารสำคัญแยกจากกัน
- เลือกชำระเป็นสกุลเงินยูโรเมื่อรูดบัตรในต่างประเทศ
วิกฤตหนี้ของกรีซส่งผลกระทบต่อค่าเงินยูโรในปัจจุบันอย่างไร?
วิกฤตหนี้ของกรีซ ในช่วงปี 2010-2018 เคยสร้างความกังวลอย่างมากต่อเสถียรภาพของ เงินยูโร แต่ด้วยมาตรการช่วยเหลือและการปฏิรูปเศรษฐกิจ ปัจจุบันสถานการณ์ได้คลี่คลายลงแล้ว และวิกฤตดังกล่าวไม่ได้ส่งผลกระทบโดยตรงต่อมูลค่าของเงินยูโรในตลาดโลกอย่างมีนัยสำคัญในปัจจุบัน
มีแอปพลิเคชันหรือบริการแลกเปลี่ยนเงินใดบ้างที่แนะนำสำหรับคนไทยไปกรีซ เพื่อความสะดวกและประหยัด?
สำหรับความสะดวกและประหยัด นักท่องเที่ยวไทยอาจพิจารณาใช้:
- บัตร Travel Card (Multi-currency card): เช่น KBank Travel Card, SCB Planet Card, Krungsri Boarding Card ที่สามารถแลกเงินยูโรเก็บไว้ล่วงหน้าได้ในอัตราที่ดี
- แอปพลิเคชันธนาคาร: สำหรับตรวจสอบอัตราแลกเปลี่ยนและโอนเงิน
- แอปพลิเคชันเปรียบเทียบอัตราแลกเปลี่ยน: เพื่อหาแหล่งที่ให้อัตราที่ดีที่สุด
การให้ทิปในกรีซมีธรรมเนียมปฏิบัติอย่างไร และควรให้เท่าไหร่?
การให้ ทิปในกรีซ ไม่ได้เป็นข้อบังคับที่เข้มงวดนัก แต่ถือเป็นการแสดงความพึงพอใจ:
- ร้านอาหาร: หากบริการดีเยี่ยม สามารถปัดเศษขึ้นหรือให้ประมาณ 5-10% ของค่าอาหาร
- แท็กซี่: มักจะปัดเศษค่าโดยสารขึ้นให้เป็นจำนวนเต็มยูโร
- โรงแรม: พนักงานยกกระเป๋าหรือทำความสะอาด อาจให้ 1-2 ยูโร
การให้ทิปด้วยความเต็มใจจะได้รับการชื่นชม