ค่า สเปรด คืออะไร? ไขข้อสงสัยต้นทุนการเทรด Forex และ CFD ที่เทรดเดอร์ไทยต้องรู้

บทนำ: ทำความเข้าใจ “ค่า สเปรด คือ” ทำไมถึงสำคัญ?

เมื่อคุณเริ่มต้นเดินทางในวงการเทรด Forex และ CFD คุณจะพบกับศัพท์เทคนิคจำนวนมากที่จำเป็นต้องรู้จักให้ดี และ “ค่า สเปรด” หรือที่รู้จักกันในชื่อ Spread ถือเป็นหนึ่งในองค์ประกอบหลักที่กำหนดต้นทุนการเทรดของคุณโดยตรง มันคือค่าธรรมเนียมที่เกิดขึ้นทันทีเมื่อคุณเปิดและปิดคำสั่งซื้อขาย หากขาดความรู้เกี่ยวกับเรื่องนี้ คุณอาจสูญเสียกำไรโดยไม่รู้ตัว หรือเลือกโบรกเกอร์ที่ไม่ตรงกับรูปแบบการเทรดของคุณ

ภาพประกอบบุคคลนำทางในโลกเทรด Forex ที่ซับซ้อน โดยมีกราฟและตัวเลขแสดงค่า สเปรด เป็นต้นทุนหลัก

ในบทความนี้ เราจะสำรวจทุกมุมมองของค่า สเปรด เริ่มจากนิยามพื้นฐาน ไปจนถึงประเภทต่าง ๆ ปัจจัยที่影响 และวิธีการจัดการเพื่อให้การเทรดของคุณมีประสิทธิภาพสูงสุด โดยเฉพาะสำหรับนักเทรดชาวไทยที่กำลังมองหาคำแนะนำในการเลือกโบรกเกอร์ชั้นนำอย่าง Exness, XM และค่ายอื่น ๆ ที่น่าเชื่อถือ

ค่า สเปรด คืออะไร? แก่นแท้ของ Bid และ Ask Price

ค่า สเปรด หมายถึงช่องว่างระหว่างราคาซื้อหรือ Ask Price กับราคาขายหรือ Bid Price ของคู่สกุลเงินหรือสินทรัพย์ในตลาด Forex และ CFD นักเทรดจะเห็นราคา Bid เมื่อต้องการขาย และราคา Ask เมื่อต้องการซื้อเสมอ ช่องว่างนี้คือค่าบริการหลักที่โบรกเกอร์เรียกเก็บเพื่อให้คุณเข้าถึงตลาดได้

ภาพประกอบแสดงราคา Bid และ Ask บนกราฟการเงิน โดยมีช่องว่างระหว่างทั้งสองแทนค่า สเปรด

ลองนึกภาพตัวอย่างง่าย ๆ เช่น เมื่อคุณสนใจคู่สกุลเงิน EUR/USD โบรกเกอร์จะให้ราคา Ask ที่สูงกว่าราคา Bid เล็กน้อย ซึ่งช่องว่างนั้นคือค่า สเปรด ที่คุณต้องรับผิดชอบทันทีที่เปิดตำแหน่ง ยิ่งช่องว่างนี้แคบเท่าไหร่ ค่าใช้จ่ายในการเทรดของคุณก็ยิ่งต่ำลงเท่านั้น ทำให้กำไรสะสมได้ง่ายขึ้น

เข้าใจ Pip: หน่วยวัดค่า สเปรด ที่สำคัญ

Pip หรือ Point in Percentage คือหน่วยวัดการเคลื่อนไหวราคาที่เล็กที่สุดในตลาด Forex และใช้ในการกำหนดค่า สเปรด ด้วย สำหรับคู่สกุลเงินหลักส่วนใหญ่ 1 Pip เท่ากับ 0.0001 หรือทศนิยมที่สี่ แต่สำหรับคู่ที่มีเยนญี่ปุ่นหรือ JPY จะเป็น 0.01 หรือทศนิยมที่สอง

ภาพประกอบแว่นขยายโฟกัสที่การเคลื่อนไหวเล็กน้อยบนหน้าจอเทรดดิจิทัล สื่อถึง Pip เป็นหน่วยวัด

เพื่อให้เห็นภาพชัดเจน สมมติว่าราคา Bid ของ EUR/USD อยู่ที่ 1.12340 และ Ask อยู่ที่ 1.12355 ช่องว่างจะเป็น 1.12355 ลบ 1.12340 เท่ากับ 0.00015 หรือ 1.5 Pip ดังนั้น ถ้าโบรกเกอร์บอกว่าคู่สกุลเงินนี้มีค่า สเปรด 1.5 Pip หมายความว่าคุณจะเสียต้นทุนเท่านี้ตั้งแต่เริ่มเปิดออเดอร์ หน่วยวัดนี้ช่วยให้นักเทรดประเมินค่าใช้จ่ายได้แม่นยำ

ประเภทของค่า สเปรด: Fixed vs. Variable Spread

การรู้จักประเภทของค่า สเปรด จะช่วยให้คุณเลือกโบรกเกอร์และวางแผนการเทรดได้อย่างเหมาะสม โดยแบ่งหลัก ๆ เป็นสองแบบ

  • Fixed Spread (ค่า สเปรด คงที่): ค่านี้จะคงที่ไม่เปลี่ยนแปลง แม้ตลาดจะผันผวนแค่ไหนก็ตาม เหมาะสำหรับนักเทรดที่ชอบความแน่นอนในการคำนวณต้นทุน โดยเฉพาะช่วงตลาดวุ่นวาย ข้อดีคือคาดการณ์ค่าใช้จ่ายได้ชัดเจน แต่ในตลาดปกติอาจแพงกว่าแบบลอยตัวเล็กน้อย และบางครั้งโบรกเกอร์อาจรีโควทหรือปฏิเสธคำสั่งเพื่อป้องกันความเสี่ยงของตัวเอง
  • Variable Spread (ค่า สเปรด ลอยตัว): ค่านี้ปรับตัวตามสภาพตลาด โดยจะแคบลงในช่วงสภาพคล่องดีและผันผวนต่ำ แต่กว้างขึ้นเมื่อตลาดเงียบหรือข่าวรุนแรง ข้อดีคือมักต่ำกว่าแบบคงที่ในสภาวะปกติ เหมาะกับนักเทรดที่ยอมรับความเสี่ยงเพื่อแลกกับต้นทุนที่ถูกลง

เลือกแบบไหนดี? Fixed หรือ Variable Spread

การตัดสินใจเลือกประเภทขึ้นอยู่กับรูปแบบการเทรดและระดับความอดทนต่อความไม่แน่นอนของคุณ

  • Fixed Spread: เหมาะกับมือใหม่หรือนักเทรดที่ต้องการความมั่นคง โดยเฉพาะผู้ที่ทำสั้น ๆ อย่าง Scalping ซึ่งต้องคำนวณต้นทุนละเอียด
  • Variable Spread: ดีสำหรับนักเทรดเก๋าเกม ที่เทรดในช่วงตลาดคึกคัก หรือต้องการค่า สเปรด ต่ำสุดในเวลาปกติ แม้ต้องระวังการขยายตัวในช่วงข่าว

ทั้งสองแบบมีข้อดีข้อเสีย ลองทดสอบในบัญชีเดโมเพื่อหาที่เหมาะกับตัวเอง

ปัจจัยที่ส่งผลต่อค่า สเปรด: สิ่งที่คุณควบคุมไม่ได้แต่ต้องรู้!

ค่า สเปรด ไม่ได้ขึ้นอยู่กับโบรกเกอร์เท่านั้น แต่ยังได้รับอิทธิพลจากปัจจัยภายนอกที่นักเทรดควรตระหนัก

  • สภาพคล่องของตลาด: ตลาดที่มีผู้ซื้อผู้ขายมากจะทำให้ค่า สเปรด แคบลง เพราะโบรกเกอร์จับคู่คำสั่งได้ง่าย คู่หลักอย่าง EUR/USD มักคล่องตัวกว่าคู่รองหรือแปลก
  • ความผันผวน: เมื่อตลาดสั่นคลอนจากข่าวหรือเหตุการณ์ไม่คาดฝัน ค่า สเปรด จะขยายเพื่อชดเชยความเสี่ยง
  • ข่าวเศรษฐกิจและเหตุการณ์: การประกาศอัตราดอกเบี้ย Non-Farm Payrolls หรือประชุมธนาคารกลาง จะทำให้ตลาดตึงเครียด ส่งผลให้ค่า สเปรด พุ่งสูง
  • ช่วงเวลาการเทรด: ค่า สเปรด แคบสุดในช่วงตลาดใหญ่ทับซ้อน เช่น ลอนดอนกับนิวยอร์ก แต่กว้างในช่วงตลาดเอเชียหรือปิดทำการ โดยเฉพาะเวลากลางคืนของไทย
  • ประเภทโบรกเกอร์และบัญชี: โบรกเกอร์แบบ Market Maker หรือ ECN/STP และบัญชีต่าง ๆ เช่น Standard หรือ Raw Spread จะมีโครงสร้างค่า สเปรด ที่แตกต่าง

การเข้าใจปัจจัยเหล่านี้ช่วยให้คุณวางแผนเทรดได้ดีขึ้น แม้ไม่สามารถควบคุมได้เต็มที่

ค่า สเปรด มีผลต่อการเทรดของคุณอย่างไร?

ค่า สเปรด ส่งผลกระทบโดยตรงต่อผลงานการเทรดในหลายมิติ

  • ต้นทุนโดยรวม: มันคือค่าแรกที่หักทันทีเมื่อเปิดออเดอร์ ยิ่งกว้างยิ่งเพิ่มภาระ
  • จุดคุ้มทุน: คุณต้องทำกำไรเกินค่า สเปรด ก่อนจึงจะเริ่มเห็นผลบวก ถ้าสเปรดกว้าง จุดนี้จะเลื่อนไกลออกไป
  • กลยุทธ์โดยเฉพาะ Scalping: สำหรับการเทรดสั้นที่หวังกำไรน้อย ค่า สเปรด สูงอาจกลายเป็นอุปสรรคใหญ่ ทำให้กลยุทธ์ไม่เวิร์ค
  • ความเสี่ยงจากขยายตัว: ในตลาดรุนแรง ค่า สเปรด อาจพุ่งกะทันหัน นำไปสู่ขาดทุนเพิ่มหรือ Margin Call ถ้าทุนไม่พอ

ดังนั้น การมองข้ามค่า สเปรด อาจทำให้แผนการเทรดทั้งหมดสะดุด

กลยุทธ์บริหารจัดการค่า สเปรด เพื่อการเทรดที่ได้เปรียบ

นักเทรดชาวไทยสามารถลดผลกระทบจากค่า สเปรด ด้วยวิธีเหล่านี้ เพื่อให้การเทรดมีกำไรมากขึ้น

  • เลือกเวลาที่ดี: เทรดในช่วงสภาพคล่องสูง เช่น ลอนดอน-นิวยอร์ก เพื่อค่า สเปรด แคบ
  • หลีกเลี่ยงข่าว: ถ้าไม่อยากเจอสเปรดกว้าง งดเปิดออเดอร์ช่วงประกาศข้อมูลสำคัญ
  • ใช้ Limit Order: กำหนดราคาเข้าที่ชัดเจน แทน Market Order ที่รับราคาตลาดตรงหน้า ช่วยเลี่ยงความแปรปรวน
  • เลือกบัญชีเหมาะสม: ลองบัญชี ECN ที่สเปรดต่ำแต่มีค่าคอม เช่น ลักษณะบัญชี ECN ของ Exness ซึ่งช่วยประหยัดในระยะยาว
  • ตรวจสอบเรียลไทม์: ใช้เครื่องมือของโบรกเกอร์ดูค่า สเปรด ก่อนเทรดทุกครั้ง

กลยุทธ์เหล่านี้ไม่ซับซ้อน แต่ถ้าปฏิบัติสม่ำเสมอ จะช่วยเพิ่มขอบเปรียบในการแข่งขัน

เปรียบเทียบค่า สเปรด ของโบรกเกอร์ยอดนิยมในไทย (Exness, XM และอื่นๆ)

สำหรับนักเทรดไทย การเลือกโบรกเกอร์ที่มีค่า สเปรด ดีคือกุญแจสำคัญ โบรกเกอร์ฮิต ๆ อย่าง Exness, XM, Tickmill, Mitrade และ IC Markets แต่ละแห่งมีจุดเด่นเฉพาะตัว

โบรกเกอร์ ประเภท Spread หลัก ค่า สเปรด EUR/USD (โดยประมาณ) จุดเด่นด้าน Spread
Exness Variable (มี Zero, Raw Spread) 0.0 – 1.0 Pip (ขึ้นอยู่กับบัญชี) มีบัญชี Zero/Raw Spread ที่ให้ค่า สเปรด ต่ำมาก (มีค่าคอมมิชชั่น)
XM Variable 0.6 – 1.8 Pip (ขึ้นอยู่กับบัญชี) มีบัญชี Ultra Low ที่มีค่า สเปรด ต่ำ, ไม่มี Requote
IC Markets Variable (Raw Spread) 0.0 – 0.6 Pip (มีค่าคอมมิชชั่น) เป็นที่รู้จักในด้าน Raw Spread ที่ต่ำมาก เหมาะสำหรับ Scalping
Tickmill Variable (Raw Spread) 0.0 – 1.0 Pip (มีค่าคอมมิชชั่น) ค่า สเปรด ต่ำในบัญชี Pro และ VIP, มีความโปร่งใส
Mitrade Variable 0.8 – 2.0 Pip โบรกเกอร์ที่ใช้งานง่าย, มีค่า สเปรด ที่แข่งขันได้

*หมายเหตุ: ค่า สเปรด เป็นค่าโดยประมาณและอาจเปลี่ยนแปลงได้ตามสภาวะตลาดและประเภทบัญชี*

ในฟอรัมไทยอย่าง Pantip นักเทรดมักแลกเปลี่ยนประสบการณ์เกี่ยวกับค่า สเปรด ของโบรกเกอร์เหล่านี้ โดยเฉพาะ Exness และ XM ที่ได้รับความนิยมสูง การดูรีวิวจริงจากผู้ใช้ช่วยให้เห็นภาพชัด แต่ควรใช้ดุลยพินิจในการตัดสิน

ค่า สเปรด ทองแต่ละ โบรก: ข้อควรรู้สำหรับนักลงทุนทองคำ

การเทรดทองคำหรือ XAUUSD เป็นที่ชื่นชอบในไทย แต่ค่า สเปรด ของทองมักสูงกว่าคู่สกุลเงินเพราะความผันผวนและสภาพคล่องที่แปรผัน โบรกเกอร์แต่ละแห่งมีนโยบายต่างกัน

  • Exness: บัญชี Zero Spread ให้ค่า สเปรด ทองเริ่มต้น 0.0 Pip ในช่วงตลาดดี (แต่มีค่าคอม)
  • XM: มีสเปรดทองแข่งขันในบัญชี Ultra Low และมักมีโปรโมชั่นลดค่า สเปรด เป็นระยะ
  • IC Markets: โดดเด่นด้วยสเปรดทองต่ำในบัญชี Raw Spread (มีค่าคอม)

นักลงทุนทองควรเปรียบเทียบละเอียด รวมถึงเวลาที่เทรดและบัญชีที่เหมาะ เพื่อหลีกเลี่ยงต้นทุนสูงเกินไป

สรุป: เลือกโบรกเกอร์อย่างไรให้เหมาะสมกับค่า สเปรด ของคุณ

การรู้จัก “ค่า สเปรด คือ” และผลที่ตามมาเป็นรากฐานสำคัญสู่ความสำเร็จใน Forex และ CFD การเลือกโบรกเกอร์ไม่ใช่แค่หาที่สเปรดต่ำสุด แต่ต้องตรงกับสไตล์เทรด ทุน และแผนของคุณ

ก่อนเลือก พิจารณา:

  • สไตล์เทรด: ถ้าทำ Scalping หรือ Day Trading สเปรดต่ำคือสิ่งจำเป็น
  • ความถี่: สำหรับ Swing หรือ Position Trading ที่ถือยาว สเปรดอาจไม่ใช่ปัจจัยหลัก
  • สินทรัพย์: คู่หลักมีสเปรดต่ำกว่าทองหรือสินค้าอื่น
  • ค่าใช้จ่ายอื่น: รวมค่าคอม Swap และค่าธรรมเนียมอื่น ๆ

ศึกษาลึกซึ้งและลองบัญชีเดโมกับหลายโบรกเกอร์ จะช่วยให้คุณเข้าใจสภาพจริง และตัดสินใจได้อย่างมั่นใจ

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับค่า สเปรด (FAQs)

ค่า สเปรด Exness คืออะไร และแตกต่างจากโบรกเกอร์อื่นอย่างไร?

ค่า สเปรด ของ Exness คือส่วนต่างระหว่างราคา Bid และ Ask ที่ Exness เสนอ โดย Exness ได้รับการยอมรับในเรื่องสเปรดที่แข่งขันได้ พร้อมบัญชีหลากหลาย เช่น Standard, Cent, Pro, Zero และ Raw Spread ซึ่งบัญชี Zero กับ Raw Spread มักให้สเปรดต่ำใกล้ศูนย์แต่มีค่าคอมมิชชั่น แตกต่างจากโบรกเกอร์อื่นที่อาจมีแค่บัญชีพื้นฐานสเปรดสูงกว่า

ค่า สเปรด XM เท่าไร และมีปัจจัยอะไรบ้างที่ทำให้ สเปรด ทอง ของ XM เปลี่ยนแปลง?

ค่า สเปรด ของ XM ขึ้นกับบัญชี โดย Micro และ Standard เริ่มต้น 1.0-1.8 Pip สำหรับคู่หลัก ส่วน Ultra Low จะต่ำกว่า สำหรับสเปรดทองหรือ XAUUSD ของ XM ปัจจัยหลัก ได้แก่ สภาพคล่องตลาดทอง ความผันผวนจากข่าวเศรษฐกิจ เช่น เงินเฟ้อหรือนโยบายธนาคารกลาง ช่วงเวลาการเทรดที่สเปรดกว้างในตลาดปิดหรือเปิดใหม่ และสมดุลอุปสงค์-อุปทานทองโลก

ค่า สเปรด คิด ยัง ไง? มีวิธีคำนวณง่ายๆ ให้เข้าใจไหม?

ค่า สเปรด หาจากส่วนต่างราคา Ask ลบ Bid โดยวัดเป็น Pip เช่น ถ้า Ask ของ EUR/USD คือ 1.12350 และ Bid คือ 1.12340 จะได้ 1.12350 ลบ 1.12340 เท่ากับ 0.00010 หรือ 1.0 Pip วิธีนี้ช่วยให้นักเทรดคำนวณต้นทุนได้รวดเร็ว

โบรกเกอร์ที่มีค่า สเปรด ต่ำที่สุดในไทยคือที่ไหน และเชื่อถือได้หรือไม่?

โบรกเกอร์ ECN/STP อย่าง IC Markets, Tickmill หรือบัญชี Zero/Raw Spread ของ Exness มักให้สเปรดต่ำสุดเริ่ม 0.0 Pip แต่มีค่าคอม โบรกเกอร์เหล่านี้ส่วนใหญ่มีใบอนุญาตจากหน่วยงานชั้นนำ เช่น CySEC, ASIC, FCA แสดงถึงความน่าเชื่อถือ แต่ควรตรวจสอบใบอนุญาตและรีวิวจากผู้ใช้จริงเสมอ

ค่า สเปรด ทองแต่ละ โบรก แตกต่างกันมากไหม และมีผลต่อกำไรขาดทุนอย่างไร?

สเปรดทองคำหรือ XAUUSD ต่างกันชัดเจนระหว่างโบรกเกอร์และบัญชี เพราะทองผันผวนสูง สเปรดสูงจะเพิ่มต้นทุนตรง ๆ ทำให้จุดคุ้มทุนไกล ลดโอกาสกำไร โดยเฉพาะ Scalping หรือเทรดบ่อยที่อาจขาดทุนง่ายขึ้น

การเทรดในช่วงข่าวเศรษฐกิจสำคัญ ค่า สเปรด จะกว้างขึ้นหรือไม่ และควรรับมืออย่างไร?

ใช่ สเปรดมักขยายมากในช่วงข่าวสำคัญเพราะตลาดผันผวนและไม่แน่นอน สูงความเสี่ยงให้โบรกเกอร์ วิธีรับมือ ได้แก่ หลีกเลี่ยงเปิดออเดอร์ช่วงนั้น ใช้ Stop Loss จำกัดขาดทุน ลดขนาดล็อต หรือใช้ Limit Order กำหนดราคาเข้าชัดเจน

นอกจากค่า สเปรด แล้ว ยังมีต้นทุนการเทรดอะไรอีกบ้างที่เทรดเดอร์ไทยควรรู้?

นอกจากสเปรด นักเทรดไทยควรรู้ต้นทุนอื่น เช่น ค่าคอมมิชชั่นในบัญชีสเปรดต่ำอย่าง ECN หรือ Raw Spread ค่า Swap สำหรับถือข้ามคืนที่อาจบวกหรือลบตามดอกเบี้ยสกุลเงิน ค่าธรรมเนียมฝากถอน และค่าความไม่เคลื่อนไหวถ้าไม่ได้เทรดนาน

มีกลยุทธ์ใดบ้างที่ช่วยลดผลกระทบจากค่า สเปรด ในการเทรดสั้น (Scalping)?

สำหรับ Scalping ที่敏感ต่อสเปรด กลยุทธ์ดี ๆ ได้แก่ เลือกโบรกเกอร์บัญชี Raw หรือ Zero Spread ค่าคอมต่ำ เทรดช่วงสภาพคล่องสูงสุดอย่างลอนดอน-นิวยอร์ก เลือกคู่หลักสเปรดแคบ งดเทรดช่วงข่าว และใช้ Limit Order เพื่อราคาเข้าดี

บัญชีประเภท ECN ช่วยลดค่า สเปรด ได้จริงหรือ และเหมาะกับเทรดเดอร์แบบไหน?

ใช่ บัญชี ECN ลดสเปรดได้จริง โดยส่งคำสั่งตรงถึงผู้ให้สภาพคล่อง ทำให้สเปรดแคบเริ่ม 0.0 Pip แต่มีค่าคอมต่อล็อต เหมาะกับนักเทรดมีประสบการณ์ Scalper Day Trader หรือใช้ EA ที่ต้องการความเร็วและสเปรดต่ำ

ค่า สเปรด ที่สูงหรือต่ำเป็นตัวชี้วัดความน่าเชื่อถือของโบรกเกอร์ได้หรือไม่?

สเปรดอย่างเดียวไม่บอกความน่าเชื่อถือเต็มที่ โบรกเกอร์สเปรดสูงอาจเป็น Market Maker หรือสเปรดต่ำแต่คอมสูง สำคัญกว่าคือใบอนุญาตจากหน่วยงานน่าเชื่อถือ รีวิวจริง ความโปร่งใสเงื่อนไข และบริการลูกค้า รวมถึงโครงสร้างค่าใช้จ่ายทั้งหมด

發佈留言

發佈留言必須填寫的電子郵件地址不會公開。 必填欄位標示為 *