DMI: 3 ส่วนประกอบสำคัญ วิเคราะห์ทิศทางและความแข็งแกร่งของเทรนด์ในตลาดหุ้น คริปโต Forex

บทนำ: DMI คืออะไรในโลกการลงทุน?

ในตลาดการลงทุนที่เต็มไปด้วยความไม่แน่นอน นักลงทุนหลายคนมักมองหาเครื่องมือที่ช่วยวิเคราะห์ทิศทางและพลังของการเคลื่อนไหวราคา เพื่อให้การตัดสินใจซื้อขายมีประสิทธิภาพมากขึ้น หนึ่งในเครื่องมือทางเทคนิคที่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางคือ Directional Movement Index หรือที่เรียกสั้น ๆ ว่า DMI ซึ่งถูกคิดค้นโดย J. Welles Wilder Jr. นักวิเคราะห์ชื่อดังที่ยังเป็นผู้พัฒนาอินดิเคเตอร์อื่น ๆ อีกมากมาย เช่น RSI และ ATR

Trader analyzing DMI indicator on market chart for volatility

DMI ไม่เพียงแต่ช่วยบอกทิศทางของราคาเท่านั้น แต่ยังประเมินความเข้มข้นของแนวโน้มได้ด้วย ไม่ว่าจะเป็นการขึ้นหรือลง ซึ่งเป็นข้อมูลสำคัญที่ช่วยให้นักลงทุนตัดสินใจได้อย่างมั่นใจยิ่งขึ้น ก่อนที่เราจะไปสำรวจการนำ DMI ไปใช้กับหุ้นไทย สกุลเงินดิจิทัล หรือตลาด Forex กันอย่างละเอียด ขอชี้แจงก่อนว่า คำว่า DMI อาจหมายถึงสิ่งอื่นในบริบทต่าง ๆ เช่น โครงการปรับปรุงข้อมูลสมัยใหม่ หรือบริษัทจัดการผลิตภัณฑ์นม แต่ในที่นี้ เราจะโฟกัสเฉพาะ DMI ในฐานะ เครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิค สำหรับตลาดการเงิน เพื่อให้เนื้อหาเหลือแหลมและตรงจุดที่สุดสำหรับผู้อ่าน

ทำความเข้าใจ Directional Movement Index (DMI) และส่วนประกอบ

DMI คืออะไร? นิยามและหลักการทำงาน

Directional Movement Index หรือ DMI คืออินดิเคเตอร์ทางเทคนิคที่ช่วยระบุทิศทางของแนวโน้มราคาและวัดความเข้มแข็งของมัน โดยอาศัยการเปรียบเทียบราคาสูงสุด ต่ำสุด และราคาปิดระหว่างช่วงเวลาต่าง ๆ หลักการสำคัญคือการแยกแยะว่าตลาดกำลังอยู่ในเฟสที่มีแนวโน้มชัดเจนหรือกำลังเคลื่อนไหวแบบไร้ทิศทาง พร้อมทั้งชี้ให้เห็นแรงผลักดันที่อยู่เบื้องหลังการเปลี่ยนแปลงราคา

Financial charts showing upward and downward trends with DMI indicators

ส่วนประกอบหลักของ DMI: +DI, -DI และ ADX

DMI ประกอบด้วยองค์ประกอบหลักสามส่วนที่ทำงานประสานกันเพื่อให้สัญญาณที่ครบถ้วนสำหรับการเทรด ได้แก่ Positive Directional Indicator (+DI), Negative Directional Indicator (-DI) และ Average Directional Index (ADX) การเข้าใจแต่ละส่วนนี้จะช่วยให้คุณตีความสัญญาณจาก DMI ได้อย่างแม่นยำ

+DI (Positive Directional Indicator)

+DI คือเส้นที่สะท้อนถึงแรงซื้อและแรงผลักดันด้านบวกของตลาด มันจะขยับขึ้นเมื่อราคาปิดสูงกว่าราคาก่อนหน้า และราคาสูงสุดใหม่ที่สูงกว่าราคาสูงสุดเดิม หาก +DI อยู่เหนือ -DI แสดงว่าแรงซื้อครอบงำ และตลาดน่าจะเข้าสู่แนวโน้มขาขึ้น

-DI (Negative Directional Indicator)

-DI คือเส้นที่วัดแรงขายและโมเมนตัมด้านลบ โดยจะเพิ่มขึ้นเมื่อราคาปิดต่ำกว่าราคาก่อนหน้า และราคาต่ำสุดใหม่ที่ต่ำกว่าราคาต่ำสุดเดิม เมื่อ -DI อยู่เหนือ +DI แสดงว่าแรงขายเหนือกว่า และตลาดอาจมุ่งสู่แนวโน้มขาลง

ADX (Average Directional Index)

ADX ถือเป็นหัวใจสำคัญของ DMI เพราะมันวัดความแข็งแกร่งของแนวโน้มโดยไม่สนใจทิศทาง ค่าของ ADX อยู่ระหว่าง 0 ถึง 100 โดยค่าที่สูงแสดงถึงแนวโน้มที่เข้มข้น ไม่ว่าจะขึ้นหรือลง ในทางตรงกันข้าม ค่าต่ำบ่งบอกถึงตลาดที่เคลื่อนไหวแบบ sideways หรือไร้แนวโน้มชัดเจน

Market chart illustrating trending and ranging phases with DMI overlay

การคำนวณ DMI Indicator: เบื้องหลังตัวเลข

แม้แพลตฟอร์มเทรดส่วนใหญ่จะคำนวณ DMI ให้อัตโนมัติ แต่การรู้วิธีการคำนวณพื้นฐานจะช่วยให้คุณเข้าใจการทำงานของมันได้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น ทำให้สามารถปรับใช้ได้อย่างยืดหยุ่น

ขั้นตอนการคำนวณ True Range (TR)

จุดเริ่มต้นคือการหาค่า True Range (TR) ซึ่งวัดความผันผวนของราคาในแต่ละช่วง โดยเลือกค่าที่ใหญ่ที่สุดจากสามตัวนี้:

  1. ค่าความแตกต่างระหว่างราคาสูงสุดและต่ำสุดในช่วงปัจจุบัน
  2. ค่าความแตกต่างระหว่างราคาสูงสุดปัจจุบันกับราคาปิดก่อนหน้า
  3. ค่าความแตกต่างระหว่างราคาต่ำสุดปัจจุบันกับราคาปิดก่อนหน้า

การคำนวณ Directional Movement (DM) (+DM และ -DM)

ต่อมา คือการคำนวณ Directional Movement โดยแยกเป็น +DM และ -DM:

  • +DM (Positive Directional Movement): เท่ากับ (ราคาสูงสุดปัจจุบัน – ราคาสูงสุดก่อนหน้า) หากค่าบวกและมากกว่า (ราคาต่ำสุดก่อนหน้า – ราคาต่ำสุดปัจจุบัน) มิเช่นนั้นคือ 0
  • -DM (Negative Directional Movement): เท่ากับ (ราคาต่ำสุดก่อนหน้า – ราคาต่ำสุดปัจจุบัน) หากค่าบวกและมากกว่า (ราคาสูงสุดปัจจุบัน – ราคาสูงสุดก่อนหน้า) มิเช่นนั้นคือ 0

สำคัญคือ ในแต่ละช่วงราคา จะมีเพียง +DM หรือ -DM ที่มีค่าอย่างเดียว ไม่ใช่ทั้งคู่พร้อมกัน

การหา +DI, -DI และ ADX

เมื่อได้ TR, +DM และ -DM แล้ว นำมาคำนวณค่าเฉลี่ยแบบ Exponential Moving Average (EMA) หรือ Simple Moving Average (SMA) โดยปกติใช้นิยม 14 ช่วงเวลา:

  • +DI = (ค่าเฉลี่ย +DM / ค่าเฉลี่ย TR) * 100
  • -DI = (ค่าเฉลี่ย -DM / ค่าเฉลี่ย TR) * 100

จากนั้น คำนวณ ADX จาก +DI และ -DI ดังนี้:

  1. คำนวณ Directional Movement Index (DX):

    DX = ( | (+DI) – (-DI) | / ( (+DI) + (-DI) ) ) * 100

  2. คำนวณ Average Directional Index (ADX):

    ADX คือค่าเฉลี่ยแบบ EMA (มัก 14 ช่วง) ของ DX

ตารางสรุปขั้นตอนการคำนวณ DMI (ตัวอย่างสำหรับ 14 ช่วงเวลา)

ขั้นตอน สูตร/คำอธิบาย
1. คำนวณ True Range (TR) Max[(H-L), |H-Cprev|, |L-Cprev|]
2. คำนวณ +DM (H-Hprev) ถ้า > 0 และ > (Lprev-L), มิฉะนั้น = 0
3. คำนวณ -DM (Lprev-L) ถ้า > 0 และ > (H-Hprev), มิฉะนั้น = 0
4. Smoothed TR, +DM, -DM ใช้ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ (มักเป็น EMA 14 ช่วงเวลา)
5. คำนวณ +DI (Smoothed +DM / Smoothed TR) * 100
6. คำนวณ -DI (Smoothed -DM / Smoothed TR) * 100
7. คำนวณ DX (|(+DI) – (-DI)| / ((+DI) + (-DI))) * 100
8. คำนวณ ADX ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ (มักเป็น EMA 14 ช่วงเวลา) ของ DX

การตีความ DMI: สัญญาณและกลยุทธ์การเทรด

การอ่านค่า +DI และ -DI: ทิศทางของเทรนด์

การวิเคราะห์ +DI และ -DI เป็นกุญแจสำคัญในการจับทิศทางแนวโน้ม โดยสรุปดังนี้:

  • +DI อยู่เหนือ -DI: แสดงถึงแนวโน้มขาขึ้นที่แรงซื้อครองตลาด อาจเป็นโอกาสสำหรับสัญญาณซื้อ
  • -DI อยู่เหนือ +DI: แสดงถึงแนวโน้มขาลงที่แรงขายเด่นชัด อาจพิจารณาสัญญาณขาย
  • การครอสโอเวอร์: เมื่อ +DI ข้ามขึ้นเหนือ -DI ถือเป็นสัญญาณซื้อ ในขณะที่ -DI ข้ามขึ้นเหนือ +DI คือสัญญาณขาย สัญญาณเหล่านี้มักใช้กำหนดจุดเข้าและออกจากการเทรด

การอ่านค่า ADX: ความแข็งแกร่งของเทรนด์

ADX ช่วยยืนยันพลังของแนวโน้ม โดยไม่บอกทิศทาง การตีความหลัก ๆ มีดังนี้:

  • ADX ต่ำ (0-25): ตลาดขาดแนวโน้มชัดเจน อยู่ในเฟส consolidation อาจไม่เหมาะกับการเทรดตามเทรนด์
  • ADX ปานกลาง (25-50): แนวโน้มเริ่มก่อตัวและแข็งแกร่ง หาก +DI สูงกว่า -DI คือขาขึ้นที่กำลังมาแรง หรือ -DI สูงกว่า คือขาลงที่เข้มข้น
  • ADX สูง (50-75): แนวโน้มรุนแรงและเคลื่อนไหวรวดเร็ว
  • ADX สูงมาก (75-100): แนวโน้มสุดขีด อาจใกล้จุดสิ้นสุดหรือการพลิกผัน

จำไว้ว่า ADX สูงแค่บอกถึงความเข้มข้นของการเคลื่อนไหว ไม่ใช่การขึ้นหรือลงของราคา

กลยุทธ์การเทรด DMI: การรวมกันของ DI และ ADX

การผสานสัญญาณจาก +DI, -DI และ ADX จะยกระดับกลยุทธ์การเทรดให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ตัวอย่างเช่น:

  1. กลยุทธ์เข้าซื้อ (Long Entry):
    • +DI ข้ามขึ้นเหนือ -DI
    • ADX เกิน 20 หรือ 25 และกำลังขยับขึ้น
    • เข้าตำแหน่งเมื่อ +DI ข้าม -DI และ ADX ยืนยัน
  2. กลยุทธ์เข้าขาย (Short Entry):
    • -DI ข้ามขึ้นเหนือ +DI
    • ADX เกิน 20 หรือ 25 และกำลังขยับขึ้น
    • เข้าตำแหน่งเมื่อ -DI ข้าม +DI และ ADX ยืนยัน
  3. กลยุทธ์ออกจากตำแหน่ง (Exit Strategy):
    • ออกเมื่อ ADX เริ่มลดจากระดับสูง หรือเกิดครอสโอเวอร์ตรงข้าม

ไม่ว่าจะใช้วิธีไหน อย่าลืมนำ การจัดการความเสี่ยง มาใช้ เช่น ตั้ง stop-loss หรือกำหนดขนาดพอร์ตให้เหมาะสม เพื่อปกป้องทุน

DMI ในบริบทตลาดไทย: ตัวอย่างและการประยุกต์ใช้

การใช้ DMI กับหุ้นในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET)

DMI ยังคงเป็นเครื่องมือที่ทรงพลังสำหรับหุ้นไทยในตลาด SET ช่วยให้นักลงทุนคัดเลือกหุ้นที่มีแนวโน้มเด่นชัด เช่น หากต้องการหาหุ้นขาขึ้นที่แข็งแกร่ง สามารถมองหาหุ้นที่ +DI สูงกว่า -DI และ ADX เกิน 25 พร้อมแนวโน้มเพิ่มขึ้น

วิธีนี้ช่วยกรองหุ้นจำนวนมากให้เหลือตัวเลือกที่ทำกำไรได้สูง โดยเฉพาะหุ้นในกลุ่มพลังงานหรือธนาคารขนาดใหญ่ที่มักตอบสนองต่อสัญญาณ DMI อย่างชัดเจนในช่วงที่มีข่าวสารบวก

DMI กับสกุลเงินดิจิทัลและ Forex ในไทย

DMI สามารถนำไปใช้กับตลาดคริปโตและ Forex ได้อย่างยอดเยี่ยม โดยเฉพาะในสภาพแวดล้อมที่ผันผวนสูง นักลงทุนไทยบนแพลตฟอร์มอย่าง Bitkub หรือ Satang Pro สำหรับคริปโต หรือโบรกเกอร์ Forex ชั้นนำ สามารถอาศัย DMI เพื่อจับแนวโน้มหลัก ยืนยันความแข็งแกร่งก่อนเข้าเทรด และหลีกเลี่ยงช่วงตลาดนิ่ง

สำหรับ timeframe ให้เลือกตามสไตล์ เช่น day trader ใช้อินเทอร์วลสั้น ๆ อย่าง 15 นาทีหรือ 1 ชั่วโมง ขณะที่ swing trader อาจเลือก 4 ชั่วโมงหรือรายวัน เพื่อให้สัญญาณน่าเชื่อถือมากขึ้น

DMI บนแพลตฟอร์มการเทรดยอดนิยมในไทย

การติดตั้ง DMI บนแพลตฟอร์มยอดฮิตในไทยทำได้สะดวกมาก เช่น:

  • MetaTrader 4/5 (MT4/MT5): แพลตฟอร์มหลักสำหรับ Forex และ CFD หา DMI ได้ในเมนู Indicators > Trend > Average Directional Movement Index
  • TradingView: เครื่องมือกราฟออนไลน์ที่เหมาะกับหุ้น คริปโต และ Forex ค้น “DMI” หรือ “ADX” ใน Indicators แล้วปรับแต่งได้ตามใจ
  • Streaming (Settrade): สำหรับเทรดหุ้นไทย มี DMI ในส่วน Technical Indicators

แนะนำเริ่มจากค่า default 14 ช่วง แล้วลองปรับเพื่อให้เข้ากับสินทรัพย์และกลยุทธ์ของคุณ โดยเฉพาะในตลาดไทยที่อาจมีลักษณะเฉพาะ

ข้อดี ข้อจำกัด และข้อควรระวังในการใช้ DMI

ข้อดีของ DMI

DMI มีจุดเด่นที่ทำให้เทรดเดอร์ชื่นชอบหลายประการ:

  • ชี้แนวโน้มชัดเจน: แสดงทิศทางผ่าน +DI/-DI และความแข็งแกร่งผ่าน ADX อย่างตรงไปตรงมา
  • ยืดหยุ่นสูง: ใช้ได้กับทุกตลาด ไม่ว่าจะหุ้น Forex คริปโต หรือสินค้าโภคภัณฑ์
  • กรองสัญญาณหลอก: ADX ช่วยยืนยันแนวโน้ม ลดความเสี่ยงจากสัญญาณเท็จในตลาดนิ่ง

ข้อจำกัดของ DMI

อย่างไรก็ตาม DMI มีจุดอ่อนที่ต้องระวัง:

  • สัญญาณล่าช้า: เนื่องจากใช้ค่าเฉลี่ย จึงอาจตามหลังการเคลื่อนไหวราคาจริงเล็กน้อย
  • ไม่เหมาะกับตลาดไร้แนวโน้ม: เมื่อ ADX ต่ำ +DI/-DI อาจครอสกันบ่อย สร้างสัญญาณหลอก
  • ไม่ระบุจุดกลับตัว: บอกแค่ความแข็งแกร่ง ไม่ใช่เวลาที่แนวโน้มจะจบ

ข้อควรระวังและแนวทางการจัดการความเสี่ยง

สำหรับนักลงทุนไทย โดยเฉพาะมือใหม่ ควรใส่ใจดังนี้:

  • อย่าใช้เดี่ยว: รวม DMI กับเครื่องมืออื่น เช่น RSI MACD หรือ price action เพื่อยืนยัน
  • หลีกเลี่ยงสัญญาณหลอก: ถ้า ADX ต่ำกว่า 20-25 อย่าเทรดตามครอสโอเวอร์
  • เลือก timeframe ให้เหมาะ: สัญญาณต่างกันตามกรอบเวลา ต้องตรงกับสไตล์ของคุณ
  • จัดการความเสี่ยง: ตั้ง stop-loss และควบคุมขนาดเทรดเสมอ เพื่อป้องกันขาดทุนหนัก
  • ฝึกก่อนใช้จริง: ทดลองใน demo account และ backtest กลยุทธ์ให้ชำนาญ

DMI กับอินดิเคเตอร์อื่น ๆ: การผสานกลยุทธ์

การนำ DMI มาผสมกับอินดิเคเตอร์อื่นจะช่วยเสริมความแม่นยำและลดความเสี่ยง ทำให้การเทรดมีฐานะที่มั่นคงยิ่งขึ้น

DMI + RSI (Relative Strength Index)

RSI วัดภาวะ overbought/oversold การจับคู่กับ DMI ช่วยดังนี้:

  • ยืนยันแนวโน้ม: DMI ชี้ทิศทางและความแข็งแกร่ง RSI ยืนยันโมเมนตัม เช่น DMI ขาขึ้นแข็งแกร่งแต่ RSI ยังไม่ overbought อาจเป็นสัญญาณซื้อดี
  • ตรวจจับการพลิก: ถ้า DMI แสดงขาขึ้นแต่ RSI มี divergence (ราคาขึ้นแต่ RSI ลง) อาจเตือนแนวโน้มใกล้หมดแรง

DMI + MACD (Moving Average Convergence Divergence)

MACD วัดโมเมนตัมและการเปลี่ยนแนวโน้ม การรวมกับ DMI มีประโยชน์เพราะ:

  • ยืนยันสัญญาณ: DMI ให้ buy signal และ MACD line ข้าม signal ขึ้น จะน่าเชื่อถือมาก
  • กำหนดจุดเข้า/ออก: ใช้ครอสของ DMI สำหรับทิศทาง MACD สำหรับ timing ที่ละเอียด

การผสมแบบนี้ช่วยให้มองตลาดได้รอบด้าน ลดโอกาสพลาดจากสัญญาณไม่ชัด

สรุป: DMI เครื่องมือทรงพลังสำหรับเทรดเดอร์

Directional Movement Index (DMI) คือเครื่องมือวิเคราะห์เทคนิคที่ช่วยให้นักลงทุนจับกระแสทิศทางและพลังแนวโน้มได้อย่างมีประสิทธิภาพ ผ่าน +DI และ -DI ที่บอกทิศทาง กับ ADX ที่วัดความเข้มข้น ทำให้เหมาะสำหรับตลาดหุ้นไทย Forex หรือคริปโต

เมื่อเข้าใจการคำนวณ การอ่านสัญญาณ การนำไปใช้ในตลาดไทย และการรวมกับเครื่องมืออื่น จะช่วยสร้างกลยุทธ์ที่แข็งแกร่ง ลดความเสี่ยงได้ดี แต่ที่สำคัญคือการฝึกฝน การจัดการความเสี่ยง และหลีกเลี่ยงการพึ่งพาเครื่องมือตัวเดียว การนำ DMI มาใช้อย่างชาญฉลาดจะยกระดับการเทรดของคุณไปอีกขั้น

DMI คืออะไร และใช้ดูอะไรได้บ้าง?

DMI หรือ Directional Movement Index คืออินดิเคเตอร์ทางเทคนิคที่ช่วยวัดทิศทางและความเข้มข้นของแนวโน้มราคาในตลาด คุณสามารถใช้ดูว่าแนวโน้มเป็นขาขึ้น (+DI เหนือ -DI) หรือขาลง (-DI เหนือ +DI) และประเมินความแข็งแกร่งผ่าน ADX เพื่อช่วยตัดสินใจซื้อขายได้แม่นยำยิ่งขึ้น

ค่า ADX ที่ดีควรเป็นเท่าไหร่ และบอกอะไรเราได้?

ค่า ADX ที่เหมาะสมมักเกิน 20 หรือ 25 แสดงถึงแนวโน้มที่แข็งแกร่ง ยิ่งสูง เช่น 40-50 ขึ้นไป ยิ่งบ่งชี้พลังแนวโน้มมาก ไม่ว่าจะขึ้นหรือลง ถ้าต่ำกว่า 20 แสดงตลาด sideways หรือไร้แนวโน้มชัด

DMI สามารถใช้กับหุ้นไทยในตลาด SET ได้ดีแค่ไหน?

DMI ใช้ได้ดีมากกับหุ้นไทยใน SET ช่วยคัดหุ้นที่มีแนวโน้มเด่น ไม่ว่าจะหุ้นใหญ่หรือกลุ่มอุตสาหกรรมร้อนแรง การรวมกับปัจจัยพื้นฐานหรืออินดิเคเตอร์อื่นจะยิ่งเพิ่มประสิทธิภาพในการเทรดหุ้นไทย

DMI แตกต่างจาก RSI หรือ MACD อย่างไร และควรใช้ร่วมกันไหม?

DMI โฟกัสทิศทางและความแข็งแกร่งของแนวโน้ม RSI วัด overbought/oversold และ MACD วัดโมเมนตัมกับการพลิกโน้ม ทั้งหมดมีจุดมุ่งหมายต่างกัน ควรใช้ร่วมเพื่อยืนยันสัญญาณและเพิ่มความมั่นใจในการเทรด

ถ้า DMI ให้สัญญาณซื้อขายผิดบ่อย ๆ ควรทำอย่างไร?

ถ้าสัญญาณ DMI ผิดพลาดบ่อย อาจเพราะตลาด sideways (ADX ต่ำ) หรือ timeframe ไม่เหมาะ ทางแก้คือ:

  • เช็ค ADX ถ้าต่ำกว่า 20-25 งดเทรดตามครอส
  • รวมกับ RSI MACD หรือ price action
  • ลอง timeframe ยาวขึ้น
  • backtest กลยุทธ์ให้ละเอียด

มีเทคนิคการตั้งค่า DMI บนโปรแกรมเทรดอย่าง MetaTrader 5 (MT5) หรือ TradingView สำหรับนักลงทุนไทยไหม?

บน MT5 หรือ TradingView เพิ่ม DMI โดยค้น “Average Directional Movement Index” หรือ “DMI” ใน Indicators ค่าเริ่มต้น 14 ช่วงเหมาะสำหรับนักลงทุนไทย สามารถปรับ period เพื่อให้เข้ากับสินทรัพย์และ timeframe สำหรับ Streaming หุ้นไทย ก็หาในเมนู Technical Indicators ได้ง่าย

DMI เหมาะกับนักลงทุนมือใหม่หรือไม่ และมีข้อควรระวังอะไรบ้าง?

DMI เหมาะกับมือใหม่ถ้าเข้าใจการทำงานและข้อจำกัด ข้อควรระวังคือ:

  • อย่าใช้เดี่ยว ต้องรวมเครื่องมืออื่น
  • ระวังสัญญาณหลอกในตลาดนิ่ง
  • เข้าใจ timeframe ให้ดี
  • ตั้ง stop-loss จัดการความเสี่ยง
  • เริ่มจาก demo account เสมอ

นอกจากการเทรดหุ้น DMI สามารถใช้กับคริปโตเคอร์เรนซีหรือ Forex ได้ไหม?

แน่นอน DMI ใช้ได้ดีในตลาดผันผวนอย่างคริปโตและ Forex ช่วยจับแนวโน้มและยืนยันความแข็งแกร่งสำหรับคู่เงินหรือเหรียญต่าง ๆ คล้ายกับหุ้น

DMI มีความหมายอื่น ๆ นอกจากตัวชี้วัดการเทรดหรือไม่?

มี เช่น Data Modernization Initiative สำหรับโครงการข้อมูล หรือ Dairy Management Inc. สำหรับอุตสาหกรรมนม แต่ในแวดวงการเงิน DMI หมายถึง Directional Movement Index อินดิเคเตอร์ทางเทคนิคที่เราพูดถึง

ควรใช้ DMI ใน Timeframe (กรอบเวลา) ใดในการเทรด?

Timeframe ขึ้นกับสไตล์เทรด:

  • Day Trader: 15 นาที 30 นาที 1 ชั่วโมง
  • Swing Trader: 4 ชั่วโมง รายวัน
  • Long-Term Investor: รายสัปดาห์ รายเดือน สำหรับแนวโน้มยาว

เลือกที่สบายใจและยืนยันด้วย timeframe ยาวกว่าเพื่อแนวโน้มหลัก

發佈留言

發佈留言必須填寫的電子郵件地址不會公開。 必填欄位標示為 *