สัญญาซื้อขายล่วงหน้า คืออะไร?
สัญญาซื้อขายล่วงหน้า หรือที่เรียกกันสั้นๆ ว่า ฟิวเจอร์ส ถือเป็นเครื่องมือทางการเงินชนิดหนึ่งที่ช่วยให้นักลงทุนจัดการกับความเสี่ยงจากความผันผวนของราคาได้อย่างมีประสิทธิภาพ มันเป็นรูปแบบของตราสารอนุพันธ์ที่กำหนดให้ผู้ซื้อและผู้ขายตกลงกันว่าจะทำการซื้อหรือขายสินทรัพย์พื้นฐานในวันที่กำหนดไว้ล่วงหน้า ด้วยราคาที่ตกลงกันล่วงหน้าเช่นกัน โดยตลาดหลักทรัพย์จะกำหนดมาตรฐานต่างๆ ไว้ชัดเจน เช่น ขนาดสัญญา คุณภาพสินค้า และกำหนดการส่งมอบ สิ่งนี้ทำให้เกิดประโยชน์ทั้งในการป้องกันความเสี่ยงและการเก็งกำไร โดยเฉพาะในตลาดทุนทั่วโลก รวมถึงตลาดไทยที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว

สิ่งที่ทำให้สัญญาซื้อขายล่วงหน้าแตกต่างจากธุรกรรมซื้อขายปกติคือ มันไม่ใช่การแลกเปลี่ยนสินค้าทันที แต่เป็นการผูกมัดในอนาคต ผู้ซื้อต้องรับผิดชอบในการซื้อสินทรัพย์นั้นในเวลาที่กำหนด ขณะที่ผู้ขายต้องส่งมอบตามเงื่อนไขที่ตกลงไว้ เพื่อให้เกิดความชัดเจนและลดความไม่แน่นอนในราคา
คุณสมบัติสำคัญของสัญญาซื้อขายล่วงหน้า
สัญญาซื้อขายล่วงหน้ามีลักษณะพิเศษที่ช่วยให้มันเป็นที่นิยมในหมู่นักลงทุนทั่วไป โดยสามารถสรุปได้ดังนี้
- ความเป็นมาตรฐาน: ทุกสัญญาถูกกำหนดรูปแบบไว้ให้เหมือนกันหมด ไม่ว่าจะเป็นขนาด วันสิ้นสุด หรือวิธีส่งมอบ ซึ่งช่วยให้การซื้อขายในตลาดราบรื่นและมีสภาพคล่องสูง
- การซื้อขายผ่านตลาดหลักทรัพย์: ส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นในตลาดที่ได้รับการกำกับดูแล เช่น TFEX ในไทย ซึ่งต่างจากสัญญานอกตลาดที่ตกลงกันแบบส่วนตัวระหว่างคู่ค้า
- การชำระเงินและส่งมอบ: เมื่อถึงวันสิ้นสุด สัญญาสามารถจบลงได้สองแบบหลักๆ
- ส่งมอบจริง: ผู้ขายส่งสินค้าจริงให้ผู้ซื้อ เช่น ทองคำหรือน้ำมัน
- ชำระเงินสด: แค่จ่ายส่วนต่างของราคาโดยไม่ต้องส่งสินค้า ซึ่งเหมาะกับสัญญาทางการเงินอย่างดัชนีหุ้น
 
สัญญาซื้อขายล่วงหน้าทำงานอย่างไร?
การทำงานของสัญญาซื้อขายล่วงหน้าหลักๆ แล้วเกี่ยวข้องกับผู้เข้าร่วมสองฝั่ง คือ ผู้ซื้อที่คาดว่าราคาจะขึ้น (สถานะ long) และผู้ขายที่คาดว่าราคาจะลง (สถานะ short) พร้อมด้วยระบบหลักประกันและการปรับมูลค่าตามราคาตลาดจริง เพื่อให้ทุกฝ่ายมั่นใจในความสมดุล

ผู้ซื้อจะตกลงซื้อสินทรัพย์ในราคาที่กำหนดตอนนี้ แต่รับของจริงในอนาคต หากราคาขึ้นจริงก็ได้กำไร ในทางตรงกันข้าม ผู้ขายก็จะได้ประโยชน์ถ้าราคาลง ระบบนี้ช่วยให้ตลาดเคลื่อนไหวได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะเมื่อรวมกับกลไกที่ช่วยป้องกันความเสี่ยง
ระบบการวางหลักประกัน
เพราะเป็นการตกลงในอนาคต ผู้เข้าร่วมไม่ต้องจ่ายเต็มจำนวนทันที แต่ต้องวางเงินค้ำประกันหรือมาร์จิ้นไว้กับโบรกเกอร์หรือตลาด เพื่อรับประกันการปฏิบัติตามสัญญา เงินนี้แบ่งเป็นสองส่วนหลัก
- หลักประกันเริ่มต้น: จำนวนขั้นต่ำที่ต้องวางตอนเปิดสัญญา เพื่อครอบคลุมความเสี่ยงที่อาจเกิด
- หลักประกันรักษาสภาพ: ระดับต่ำสุดที่ต้องรักษาไว้ หากต่ำกว่านี้จะถูกเรียกให้เติมเงินเพิ่ม หรือเรียกว่า margin call
กลไก Mark-to-Market
ทุกวันสิ้นวันทำการ สัญญาจะถูกปรับมูลค่าตามราคาตลาดปัจจุบัน เพื่อคำนวณกำไรขาดทุนและอัปเดตบัญชีหลักประกัน ถ้าการเคลื่อนไหวของราคาเป็นไปตามคาด กำไรจะเพิ่มในบัญชี แต่ถ้าผิดทาง ขาดทุนจะหักออก หากเหลือน้อยเกิน maintenance margin ก็ต้องเติมเงินให้ถึง initial margin มิเช่นนั้นอาจถูกบังคับปิดตำแหน่ง กลไกนี้ช่วยให้ตลาดโปร่งใสและป้องกันปัญหาการล้มละลาย
ประเภทของสัญญาซื้อขายล่วงหน้า
สัญญาซื้อขายล่วงหน้ามีหลากหลายประเภท ขึ้นอยู่กับสินทรัพย์ที่เป็นพื้นฐาน ซึ่งแต่ละ loạiเหมาะกับวัตถุประสงค์ต่างกัน เช่น การป้องกันราคาวัตถุดิบหรือเก็งกำไรในตลาดการเงิน

การแบ่งประเภทนี้ช่วยให้นักลงทุนเลือกใช้ได้ตรงกับความต้องการ โดยเฉพาะในตลาดไทยที่ TFEX มีตัวเลือกที่หลากหลายเพื่อรองรับทั้งผู้ประกอบการและนักลงทุนรายย่อย
สินค้าโภคภัณฑ์
ประเภทนี้ใช้สินค้าโภคภัณฑ์เป็นพื้นฐาน มักช่วยผู้ผลิตและผู้ใช้จัดการราคาวัตถุดิบ เช่น
- สินค้าเกษตร: อย่างยางพารา ข้าว หรือน้ำมันปาล์ม ซึ่งเกษตรกรไทยนิยมใช้ป้องกันราคาผันผวน
- พลังงาน: เช่น น้ำมันดิบหรือก๊าซธรรมชาติ ที่ช่วยบริษัทพลังงานวางแผนต้นทุน
- โลหะมีค่า: อย่างทองคำ เงิน หรือแพลทินัม ซึ่งนักลงทุนใช้เก็งกำไรจากแนวโน้มเศรษฐกิจโลก
ตัวอย่างในไทยคือสัญญายางพารา ที่ช่วยเกษตรกรล็อกราคาขายล่วงหน้า ลดผลกระทบจากตลาดโลก
สัญญาซื้อขายล่วงหน้าทางการเงิน
ส่วนนี้ใช้สินทรัพย์ทางการเงินเป็นพื้นฐาน ได้รับความนิยมจากนักลงทุนทั่วไปเพราะเข้าถึงง่าย
- ดัชนีหุ้น: เช่น SET50 Futures ที่อ้างอิงดัชนี SET50 ซึ่งรวมหุ้นชั้นนำ 50 ตัวในตลาดไทย ช่วยเก็งกำไรหรือป้องกันพอร์ตหุ้นโดยรวม
- สกุลเงิน: อย่าง USD/THB Futures สำหรับจัดการความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน โดยเฉพาะผู้ส่งออกที่ต้องการล็อกค่าเงิน
- อัตราดอกเบี้ย: ใช้ป้องกันความผันผวนของดอกเบี้ยในอนาคต เหมาะกับสถาบันการเงิน
เหตุผลในการลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้า
ผู้ลงทุนหันมาใช้สัญญาซื้อขายล่วงหน้าเพราะมันตอบโจทย์หลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นการปกป้องธุรกิจหรือสร้างโอกาสทำกำไร โดยมีเหตุผลหลักสามประการที่ทำให้มันเป็นเครื่องมือที่ขาดไม่ได้
การป้องกันความเสี่ยง
การใช้สัญญานี้เพื่อลดผลกระทบจากราคาที่ผันผวนในอนาคต ถือเป็นกลยุทธ์พื้นฐานสำหรับธุรกิจ เช่น เกษตรกรยางพาราอาจขายสัญญาล่วงหน้าเพื่อกำหนดราคาขายไว้ล่วงหน้า หากราคาตลาดตกต่ำก็ไม่ได้รับผลกระทบ หรือผู้ส่งออกที่ซื้อสัญญาเงินบาทเพื่อป้องกันค่าเงินที่อาจแข็งค่าขึ้น สิ่งนี้ช่วยให้การวางแผนการเงินมีเสถียรภาพมากขึ้น โดยเฉพาะในเศรษฐกิจไทยที่พึ่งพาการส่งออก
การเก็งกำไร
สำหรับนักลงทุนที่ชอบความท้าทาย การเก็งกำไรคือการคาดเดาทิศทางราคาเพื่อทำกำไร โดยซื้อเมื่อคิดว่าราคาขึ้นหรือขายเมื่อคิดว่าราคาลง จุดเด่นคือเลเวอเรจที่ช่วยให้ใช้เงินน้อยแต่ควบคุมสินค้ามูลค่าสูงได้ อย่างไรก็ตาม มันเพิ่มความเสี่ยงเช่นกัน เพราะหากคาดผิดอาจขาดทุนหนัก ตัวอย่างคือการเก็งกำไร SET50 เมื่อตลาดหุ้นไทยมีแนวโน้มชัดเจน
การทำกำไรส่วนต่าง
กลยุทธ์นี้เน้นใช้ประโยชน์จากความแตกต่างของราคาในตลาดต่างๆ เช่น ถ้าราคา SET50 Futures กับดัชนีจริงไม่ตรงกัน นักลงทุนอาจซื้อขายข้ามตลาดเพื่อล็อกราคา โดยมีความเสี่ยงต่ำแต่ต้องอาศัยการคำนวณรวดเร็ว มันช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้ตลาดโดยรวม ลดช่องว่างราคาที่ผิดปกติ
ข้อดีและข้อเสียของสัญญาซื้อขายล่วงหน้า
แม้สัญญาซื้อขายล่วงหน้าจะมีประโยชน์มาก แต่ก็มีทั้งด้านบวกและลบที่นักลงทุนต้องชั่งน้ำหนักให้ดี เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาที่ไม่คาดคิด
ข้อดี
- สภาพคล่องสูง: การซื้อขายในตลาดใหญ่ทำให้เข้า-ออกตำแหน่งได้ง่าย ไม่ติดขัด
- ต้นทุนต่ำ: ค่าธรรมเนียมน้อยกว่าการลงทุนตรงในสินทรัพย์จริง
- โปร่งใส: ราคาเปิดเผยชัดเจนจากตลาดหลักทรัพย์
- ยืดหยุ่น: ทำกำไรได้ทั้งตอนตลาดขึ้นและลง
- เลเวอเรจ: ใช้เงินน้อยควบคุมมูลค่าสูง เพิ่มโอกาสผลตอบแทน
ข้อเสีย
- ความเสี่ยงสูง: เลเวอเรจอาจทำให้ขาดทุนเกินทุนเดิม หากตลาดสวนทาง
- ซับซ้อน: ต้องเข้าใจกลไกตลาดและหลักประกันให้ลึก
- ต้องเฝ้าติดตาม: ตลาดผันผวน ต้องอัปเดตข่าวสารตลอด
- ความเสี่ยง margin call: ถ้าหลักประกันต่ำเกิน ต้องเติมเงินด่วน มิเช่นนั้นถูกปิดตำแหน่ง
การซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้าในประเทศไทย
ในไทย การเทรดสัญญาซื้อขายล่วงหน้าดำเนินผ่าน ตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้าแห่งประเทศไทย (TFEX) ซึ่งอยู่ภายใต้การกำกับของ ก.ล.ต. ทำให้มั่นใจได้ในความโปร่งใสและความปลอดภัย TFEX เป็นศูนย์กลางสำหรับตราสารอนุพันธ์ที่หลากหลาย ช่วยให้นักลงทุนไทยเข้าถึงโอกาสระดับสากล
ผลิตภัณฑ์ยอดนิยม ได้แก่
- SET50 Futures: อ้างอิงดัชนี SET50 ที่มีสภาพคล่องสูงสุด
- Stock Futures: สำหรับหุ้นรายตัว
- Gold Futures: ติดตามราคาทองคำ
- Oil Futures: สำหรับน้ำมัน
- Currency Futures: เช่น EUR/THB, USD/THB, JPY/THB เพื่อจัดการค่าเงิน
การเริ่มต้นต้องเปิดบัญชีกับโบรกเกอร์ที่ได้รับอนุญาต ซึ่งจะดูแลบัญชีหลักประกัน ดังนั้น เลือกบริษัทที่น่าเชื่อถือและมีบริการดีจึงสำคัญ โดยเฉพาะสำหรับมือใหม่ที่ต้องการคำแนะนำ
ข้อควรพิจารณาและคำแนะนำสำหรับนักลงทุนไทย
การลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่ TFEX มีโอกาสดี แต่ต้องเตรียมตัวรับมือความเสี่ยงให้ดี เพื่อให้การลงทุนยั่งยืนและมีกำไรในระยะยาว
ความเข้าใจความเสี่ยง
ก่อนลงมือ ควรศึกษาความเสี่ยงให้ละเอียด โดยเฉพาะเลเวอเรจที่ขยายทั้งกำไรและขาดทุน ตลาดไทยอาจผันผวนจากปัจจัยเศรษฐกิจภายใน เช่น อัตราเงินเฟ้อหรือการเมือง ซึ่งอาจกระทบสถานะของคุณอย่างรุนแรง
การจัดการเงินทุนและการจำกัดความเสี่ยง
หลักการสำคัญคือการวางแผนให้รอบคอบ
- กำหนดขนาดตำแหน่ง: ลงทุนไม่เกินกว่าที่รับขาดทุนไหว
- ใช้ stop loss: ตั้งจุดตัดขาดทุนชัดเจน
- กระจายพอร์ต: อย่าลงทุนสัญญาแบบเดียว
- สำรองเงิน: เตรียมเงินในบัญชีให้พอ หลีกเลี่ยง margin call
ตัวอย่างเช่น เริ่มด้วยเงินทุนเล็กๆ และใช้เครื่องมือวิเคราะห์เพื่อติดตามแนวโน้ม
ภาษีสำหรับการซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้าในประเทศไทย
สำหรับบุคคลธรรมดา กำไรจากการเทรดผ่าน TFEX มักได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้ แต่ควรตรวจสอบกฎล่าสุดกับผู้เชี่ยวชาญภาษี ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตราสารอนุพันธ์ สามารถหาได้จากเว็บตลาดหลักทรัพย์
หลีกเลี่ยงข้อผิดพลาดทั่วไป
มือใหม่มักเจอปัญหาเหล่านี้
- เลเวอเรจเกิน: ใช้สัญญาใหญ่เกินทุน
- ไร้แผน: ไม่มีกลยุทธ์เข้า-ออกตลาด
- ตัดสินใจด้วยอารมณ์: กลัวหรือโลภเกินเหตุ
- ขาดความรู้: ลงทุนโดยไม่เข้าใจสินทรัพย์
TFEX มีคอร์สและสัมมนา ที่ช่วยเสริมทักษะได้ดี
บทสรุป
สัญญาซื้อขายล่วงหน้าเป็นเครื่องมือที่ทรงพลัง ช่วยทั้งป้องกันความเสี่ยง เก็งกำไร และทำกำไรจากส่วนต่าง แต่ต้องระวังเลเวอเรจที่เพิ่มความเสี่ยง สำหรับนักลงทุนไทย การรู้จัก TFEX กฎ ก.ล.ต. และภาษีเป็นกุญแจสำคัญ การศึกษาละเอียด วางแผนดี และบริหารความเสี่ยงอย่างมีวินัย จะช่วยให้คุณใช้ประโยชน์จากมันได้เต็มที่ สร้างความสำเร็จในตลาดทุน
คำถามที่พบบ่อย
สัญญาซื้อขายล่วงหน้า TFEX คืออะไร และต่างจากหุ้นตรงไหน?
สัญญาซื้อขายล่วงหน้า TFEX คือข้อตกลงซื้อขายสินทรัพย์อ้างอิงในอนาคต เช่น ดัชนีหุ้น ทองคำ หรือสกุลเงิน ณ ราคาและวันที่กำหนดไว้ล่วงหน้า
ความแตกต่างจากหุ้นคือ:
- การเป็นเจ้าของ: ซื้อหุ้นคือการเป็นเจ้าของส่วนหนึ่งของบริษัท แต่ซื้อสัญญาซื้อขายล่วงหน้าไม่ใช่การเป็นเจ้าของสินทรัพย์อ้างอิงโดยตรง เป็นเพียงข้อตกลง
- เลเวอเรจ: สัญญาซื้อขายล่วงหน้ามีเลเวอเรจสูงกว่าหุ้นมาก ทำให้ใช้เงินลงทุนน้อยแต่ควบคุมมูลค่าได้มาก
- กำไรขาลง: สามารถทำกำไรได้ทั้งตลาดขาขึ้น (ซื้อ) และตลาดขาลง (ขายชอร์ต) ซึ่งต่างจากหุ้นที่โดยทั่วไปทำกำไรได้ในตลาดขาขึ้น
- วันหมดอายุ: สัญญาซื้อขายล่วงหน้ามีวันหมดอายุที่ชัดเจน ในขณะที่หุ้นไม่มี
การซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้าต้องใช้หลักประกัน (มาร์จิ้น) เท่าไหร่?
จำนวนหลักประกันที่ต้องใช้นั้นขึ้นอยู่กับประเภทของสัญญาซื้อขายล่วงหน้าและราคาของสินทรัพย์อ้างอิง โดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (TFEX) จะกำหนดอัตราหลักประกันเริ่มต้น (Initial Margin) และหลักประกันรักษาสภาพ (Maintenance Margin) ไว้สำหรับแต่ละผลิตภัณฑ์
นักลงทุนสามารถตรวจสอบอัตราหลักประกันล่าสุดได้จากเว็บไซต์ของ TFEX หรือบริษัทหลักทรัพย์ที่คุณใช้บริการ ซึ่งอัตราเหล่านี้สามารถเปลี่ยนแปลงได้ตามความผันผวนของตลาด
ฉันจะเริ่มต้นลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้าในประเทศไทยได้อย่างไร?
การเริ่มต้นลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้าในประเทศไทยมีขั้นตอนดังนี้:
- ศึกษาข้อมูล: ทำความเข้าใจกลไก ความเสี่ยง และผลิตภัณฑ์ต่างๆ ของสัญญาซื้อขายล่วงหน้า
- เลือกบริษัทหลักทรัพย์: เปิดบัญชีซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้ากับบริษัทหลักทรัพย์ที่ได้รับอนุญาตจาก ก.ล.ต.
- วางหลักประกัน: ฝากเงินเพื่อเป็นหลักประกันเริ่มต้นเข้าบัญชีซื้อขายของคุณ
- วางแผนและเริ่มซื้อขาย: กำหนดกลยุทธ์การลงทุน และเริ่มส่งคำสั่งซื้อขายผ่านระบบของบริษัทหลักทรัพย์
สัญญาซื้อขายล่วงหน้ามีข้อดีและข้อเสียอย่างไรบ้างสำหรับนักลงทุนมือใหม่?
ข้อดีสำหรับนักลงทุนมือใหม่:
- โอกาสทำกำไรสูง: ด้วยเลเวอเรจ ทำให้มีโอกาสสร้างผลตอบแทนที่สูงกว่าการลงทุนในหุ้นทั่วไป
- ความยืดหยุ่น: สามารถทำกำไรได้ทั้งในตลาดขาขึ้นและขาลง
ข้อเสียสำหรับนักลงทุนมือใหม่:
- ความเสี่ยงสูงมาก: เลเวอเรจสามารถทำให้ขาดทุนรุนแรงและรวดเร็วได้
- ความซับซ้อน: ต้องใช้ความเข้าใจในกลไกตลาดและระบบหลักประกัน
- ต้องติดตามตลาด: ต้องเฝ้าติดตามสถานะการลงทุนอย่างใกล้ชิดเพื่อบริหารความเสี่ยง
นักลงทุนมือใหม่ควรเริ่มต้นด้วยเงินลงทุนจำนวนน้อย และศึกษาเรียนรู้เพิ่มเติมอย่างต่อเนื่อง
ผลตอบแทนจากการเทรดสัญญาซื้อขายล่วงหน้าต้องเสียภาษีในประเทศไทยหรือไม่?
สำหรับนักลงทุนบุคคลธรรมดาในประเทศไทย โดยทั่วไปแล้ว กำไรจากการซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้าผ่าน TFEX จะได้รับยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา อย่างไรก็ตาม เพื่อความถูกต้องและมั่นใจในสถานการณ์เฉพาะของคุณ ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านภาษีหรือตรวจสอบข้อมูลจากกรมสรรพากรโดยตรง
ความเสี่ยงสำคัญที่นักลงทุนควรระวังในการเทรดสัญญาซื้อขายล่วงหน้ามีอะไรบ้าง?
ความเสี่ยงสำคัญที่นักลงทุนควรระวังมีดังนี้:
- ความเสี่ยงจากเลเวอเรจ: แม้จะเพิ่มโอกาสทำกำไร แต่ก็เพิ่มโอกาสขาดทุนอย่างรุนแรงเช่นกัน
- ความเสี่ยงด้านราคา: ราคาของสินทรัพย์อ้างอิงอาจเคลื่อนไหวสวนทางกับที่คาดการณ์ไว้
- ความเสี่ยงจากการถูกเรียกหลักประกันเพิ่ม (Margin Call): หากหลักประกันลดลงต่ำกว่าที่กำหนด อาจถูกบังคับให้ปิดสถานะ
- ความเสี่ยงด้านสภาพคล่อง: ในบางสถานการณ์หรือบางสัญญาที่สภาพคล่องต่ำ อาจไม่สามารถซื้อหรือขายได้ตามราคาที่ต้องการ
- ความเสี่ยงจากวันหมดอายุ: หากไม่ปิดสถานะก่อนวันหมดอายุ อาจมีภาระผูกพันในการส่งมอบหรือรับมอบสินทรัพย์
สัญญาซื้อขายล่วงหน้าประเภทใดที่ได้รับความนิยมในตลาด TFEX?
สัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่ได้รับความนิยมอย่างสูงในตลาด TFEX ได้แก่:
- SET50 Futures: อ้างอิงกับดัชนี SET50 ซึ่งเป็นที่นิยมที่สุดและมีสภาพคล่องสูง
- Gold Futures: อ้างอิงกับราคาทองคำ ซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่นักลงทุนไทยคุ้นเคย
- Stock Futures: อ้างอิงกับหุ้นรายตัวขนาดใหญ่และมีสภาพคล่องดี
สัญญาเหล่านี้มักมีสภาพคล่องสูงและเป็นที่รู้จักของนักลงทุนส่วนใหญ่
ควรใช้กลยุทธ์ใดในการป้องกันความเสี่ยง (Hedging) ด้วยสัญญาซื้อขายล่วงหน้า?
กลยุทธ์ Hedging หลักๆ ได้แก่:
- Short Hedge: เหมาะสำหรับผู้ที่ถือครองสินทรัพย์อ้างอิงอยู่แล้วและต้องการป้องกันความเสี่ยงจากราคาที่จะลดลงในอนาคต โดยการขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้า
- Long Hedge: เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการซื้อสินทรัพย์อ้างอิงในอนาคต และต้องการป้องกันความเสี่ยงจากราคาที่จะสูงขึ้น โดยการซื้อสัญญาซื้อขายล่วงหน้า
การเลือกกลยุทธ์ขึ้นอยู่กับสถานะปัจจุบันของสินทรัพย์อ้างอิงที่คุณถือครองหรือมีแผนจะถือครอง
ถ้าโดน Margin Call ต้องทำอย่างไร?
เมื่อคุณถูกเรียก Margin Call หมายความว่าหลักประกันในบัญชีของคุณลดลงต่ำกว่าระดับหลักประกันรักษาสภาพ (Maintenance Margin) สิ่งที่คุณต้องทำคือ:
- เพิ่มเงินสด: ฝากเงินสดเข้าบัญชีซื้อขายของคุณให้กลับมาถึงระดับหลักประกันเริ่มต้น (Initial Margin)
- ลดสถานะ: ปิดสถานะสัญญาซื้อขายล่วงหน้าบางส่วนหรือทั้งหมด เพื่อลดภาระหลักประกัน
คุณต้องดำเนินการภายในระยะเวลาที่บริษัทหลักทรัพย์กำหนด มิฉะนั้นบริษัทหลักทรัพย์อาจบังคับปิดสถานะของคุณ
มีแหล่งเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับการเทรดสัญญาซื้อขายล่วงหน้าในประเทศไทยที่ไหนบ้าง?
คุณสามารถหาแหล่งเรียนรู้เพิ่มเติมได้จาก:
- เว็บไซต์ TFEX: มีข้อมูล สัมมนา และบทความ เกี่ยวกับการซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้า
- ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET): มีส่วนของ SET Education ที่ให้ความรู้เกี่ยวกับการลงทุน รวมถึงตราสารอนุพันธ์
- บริษัทหลักทรัพย์: บริษัทนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์หลายแห่งมีสื่อการเรียนรู้ บทวิเคราะห์ และสัมมนาสำหรับลูกค้า
- หนังสือและคอร์สเรียน: มีหนังสือเกี่ยวกับการลงทุนและคอร์สเรียนออนไลน์หรือออฟไลน์ที่สอนเรื่องสัญญาซื้อขายล่วงหน้า
 
			 
			 
			