เครื่องคำนวณกำไร Forex: ทำไมต้องใช้ในการเทรด?

เครื่องคำนวณกำไร Forex คืออะไร และทำไมถึงจำเป็นต่อการเทรด?

ในตลาด Forex ที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและคาดเดาได้ยาก การตัดสินใจเพียงเล็กน้อยก็สามารถพลิกผลลัพธ์จากกำไรเป็นขาดทุนได้ในพริบตา ด้วยเหตุนี้ เครื่องมือที่ช่วยให้คุณประเมินผลลัพธ์ทางการเงินก่อนที่จะกดยืนยันคำสั่งซื้อขาย จึงไม่ใช่แค่ของแถม แต่เป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยเพิ่มความแม่นยำและลดความเสี่ยง เครื่องคำนวณกำไร Forex คือเครื่องมือดิจิทัลที่ช่วยให้ผู้เทรดทุกคน ไม่ว่าจะมือใหม่หรือมืออาชีพ สามารถคาดการณ์กำไรหรือขาดทุนจากการเทรดได้อย่างแม่นยำ เพียงแค่กรอกข้อมูลพื้นฐาน เช่น คู่เงิน ขนาดล็อต และราคาที่คาดว่าจะเปิด-ปิดคำสั่ง

ประโยชน์ของเครื่องมือนี้ไม่ได้หยุดอยู่แค่การเห็นตัวเลขกำไรเท่านั้น แต่ยังทำหน้าที่เป็นหัวใจหลักของกลยุทธ์การบริหารความเสี่ยง (Risk Management) สำหรับนักเทรดรายใหม่ เครื่องคำนวณช่วยให้เข้าใจว่าขนาดการซื้อขาย (Lot) การเคลื่อนไหวของราคา 1 จุด (Pip) และผลที่ตามมาต่อพอร์ตการลงทุนนั้นมีความสัมพันธ์กันอย่างไร ส่วนผู้ที่เทรดมาอย่างช่ำชอง เครื่องมือนี้ช่วยวางแผนอัตราส่วนความเสี่ยงต่อผลตอบแทน (Risk-to-Reward Ratio) วางจุด Stop Loss และ Take Profit ได้อย่างมีระบบ ทำให้การตัดสินใจไม่ถูกครอบงำด้วยอารมณ์ และเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับแผนการเทรดทุกครั้ง

ภาพประกอบการคำนวณกำไร Forex แสดงคู่เงิน ราคาเปิด-ปิด และผลกำไร

วิธีใช้งานเครื่องคำนวณกำไร Forex อย่างมีประสิทธิภาพ

เครื่องคำนวณกำไรของเราได้รับการออกแบบมาเพื่อให้ใช้งานง่าย รวดเร็ว และให้ผลลัพธ์ที่ถูกต้องในเวลาไม่กี่วินาที เพียงกรอกข้อมูลที่จำเป็นลงในช่องต่างๆ ตามด้านล่าง คุณก็จะเห็นภาพรวมของกำไรหรือขาดทุนที่อาจเกิดขึ้นจากการเทรดทันที

[ส่วนนี้คือตำแหน่งสำหรับวาง Interactive Calculator]

ต่อไปนี้คือคำแนะนำการกรอกข้อมูลแต่ละช่องอย่างละเอียด เพื่อให้คุณได้ผลลัพธ์ที่แม่นยำที่สุด

เลือกคู่เงิน (Currency Pair)

ระบุคู่สกุลเงินที่คุณต้องการเทรด เช่น EUR/USD, GBP/JPY หรือ AUD/CAD การเลือกคู่เงินให้ถูกต้องมีความสำคัญอย่างยิ่ง เพราะแต่ละคู่มีลักษณะการเคลื่อนไหวและมูลค่าต่อ Pip ที่ไม่เหมือนกัน ซึ่งจะส่งผลโดยตรงต่อผลลัพธ์การคำนวณ เช่น การเคลื่อนไหว 10 พิปใน EUR/USD อาจให้กำไรต่างจาก USD/JPY แม้ในขนาดล็อตเดียวกัน

สกุลเงินของบัญชี (Account Currency)

เลือกสกุลเงินหลักที่คุณใช้ในบัญชีเทรด เช่น USD, EUR, หรือ THB เครื่องคำนวณจะแปลงผลลัพธ์สุดท้ายให้เป็นสกุลเงินนี้โดยอัตโนมัติ ช่วยให้คุณเห็นกำไรหรือขาดทุนในรูปแบบที่คุ้นเคย และสามารถเปรียบเทียบกับยอดเงินในบัญชีได้ทันที

กำหนดขนาด Lot (Lot Size)

ใส่ขนาดของการซื้อขายที่คุณวางแผนไว้ Lot คือหน่วยวัดปริมาณการเทรด โดย 1.00 Lot (Standard Lot) เท่ากับ 100,000 หน่วยของสกุลเงินหลัก (Base Currency) คุณสามารถใช้ขนาดทศนิยมได้ เช่น 0.10 (Mini Lot) หรือ 0.01 (Micro Lot) ขนาด Lot ยิ่งใหญ่ ผลกำไรหรือขาดทุนที่ได้จากการเคลื่อนไหว 1 พิปก็จะยิ่งมากขึ้นตามไปด้วย

ระบุราคาเปิด (Open Price)

กรอกราคาที่คุณคาดว่าจะเปิดคำสั่งซื้อขาย หรือราคาที่คุณเพิ่งใช้ในการเข้าตลาดจริง จุดนี้จะเป็นฐานในการคำนวณผลต่างของราคาที่จะนำไปสู่กำไรหรือขาดทุนในภายหลัง

ตั้งราคาปิด (Close Price)

ใส่ราคาเป้าหมายที่คุณต้องการปิดคำสั่ง เช่น จุด Take Profit หรือราคาที่คุณประเมินว่าตลาดจะย้อนกลับ การคำนวณจะใช้ความต่างระหว่างราคาเปิดกับราคาปิดในการหาผลตอบแทน ซึ่งช่วยให้คุณรู้ล่วงหน้าว่าหากตลาดเคลื่อนไปตามคาด จะได้กำไรเท่าไหร่

เลือกประเภทคำสั่ง (Buy หรือ Sell)

ระบุทิศทางของคำสั่งว่าคุณกำลัง “ซื้อ (Buy)” หรือ “ขาย (Sell)” หากคุณคาดว่าราคาจะขึ้น ให้เลือก Buy หากคิดว่าราคาจะลง ให้เลือก Sell การเลือกให้ถูกต้องมีผลต่อเครื่องหมายของผลลัพธ์ (บวกหรือลบ) และช่วยให้เครื่องคำนวณแสดงผลได้อย่างแม่นยำ

ผลลัพธ์: ทั้งในรูปพิปและมูลค่าจริง

เมื่อกรอกข้อมูลครบถ้วน เครื่องคำนวณจะแสดงผลลัพธ์สองส่วนหลัก: จำนวนพิปที่ได้หรือเสีย และมูลค่าเงินจริงที่ได้รับหรือสูญเสียในสกุลเงินของบัญชีคุณ ข้อมูลนี้ช่วยให้คุณตัดสินใจได้ว่าคำสั่งซื้อขายนี้มีความคุ้มค่าพอหรือไม่ และสามารถเปรียบเทียบกับแผนบริหารความเสี่ยงได้อย่างชัดเจน

ภาพแสดงหน้าตาเครื่องมือวางแผนกลยุทธ์การเทรดและการจัดการความเสี่ยง

องค์ประกอบหลักที่ต้องรู้เพื่อเข้าใจการคำนวณกำไร

การใช้เครื่องคำนวณอย่างมีประสิทธิภาพ ต้องเริ่มจากการเข้าใจปัจจัยพื้นฐานที่ส่งผลต่อผลลัพธ์ เพราะแม้เครื่องมือจะทำงานให้คุณ แต่การเข้าใจ “ที่มาของตัวเลข” จะช่วยให้คุณประเมินสถานการณ์ได้ดีขึ้น และปรับกลยุทธ์ได้อย่างมีเหตุผล

Pip และ Point คืออะไร? เข้าใจหน่วยเล็กๆ ที่มีผลต่อรายได้

Pip (Percentage in Point) คือหน่วยมาตรฐานที่ใช้วัดการเปลี่ยนแปลงของอัตราแลกเปลี่ยน ในคู่เงินส่วนใหญ่ เช่น EUR/USD หรือ GBP/USD 1 Pip เท่ากับ 0.0001 หรือทศนิยมตำแหน่งที่ 4 อย่างไรก็ตาม สำหรับคู่เงินที่มีเยน (JPY) เป็นสกุลเงินรอง เช่น USD/JPY 1 Pip จะเท่ากับ 0.01 หรือทศนิยมตำแหน่งที่ 2 Point คือหน่วยที่เล็กกว่า Pip โดยทั่วไป 1 Pip เท่ากับ 10 Points ซึ่งนิยมใช้ในราคาที่แสดงถึงทศนิยมตำแหน่งที่ 5 หรือ 3 ตัวอย่างเช่น ราคา 1.25015 มีค่าเท่ากับ 1.2501 + 5 Points โบรกเกอร์หลายรายแสดงราคาในรูปแบบนี้เพื่อความแม่นยำสูงสุด

Standard Lot, Mini Lot, Micro Lot ต่างกันอย่างไร?

ขนาดของ Lot ไม่ได้เป็นเพียงตัวเลข แต่เป็นตัวกำหนดว่าแต่ละการเคลื่อนไหวของราคาจะมีมูลค่ามากน้อยแค่ไหน ยิ่ง Lot ใหญ่ ความผันผวนของพอร์ตก็จะยิ่งรุนแรง

  • Standard Lot (1.00): เทียบเท่ากับ 100,000 หน่วยของสกุลเงินหลัก การเคลื่อนไหว 1 Pip มีมูลค่าประมาณ $10
  • Mini Lot (0.10): เท่ากับ 10,000 หน่วย มูลค่าต่อ 1 Pip อยู่ที่ประมาณ $1
  • Micro Lot (0.01): เท่ากับ 1,000 หน่วย มูลค่าต่อ 1 Pip อยู่ที่ประมาณ $0.10

การเลือกขนาด Lot ที่เหมาะสมจึงเป็นการควบคุมระดับความเสี่ยงให้สอดคล้องกับทุนและกลยุทธ์ของคุณ

Contract Size ของสินทรัพย์ต่างๆ มีผลต่อการคำนวณอย่างไร?

Contract Size หรือขนาดสัญญา คือจำนวนหน่วยของสินทรัพย์ที่อยู่ใน 1 Standard Lot ข้อมูลนี้มีความสำคัญอย่างยิ่ง โดยเฉพาะเมื่อคุณเทรดนอกเหนือจากคู่เงินทั่วไป เช่น ทองคำหรือคริปโต ด้านล่างนี้คือตัวอย่างขนาดสัญญาของสินทรัพย์ยอดนิยม

สินทรัพย์ Contract Size (ต่อ 1 Lot)
Forex (เช่น EUR/USD) 100,000 หน่วย
ทองคำ (XAU/USD) 100 ทรอยออนซ์
Bitcoin (BTC/USD) 1 BTC

การทราบ Contract Size ของแต่ละสินทรัพย์จะช่วยให้คุณคำนวณกำไรขาดทุนได้อย่างถูกต้อง ซึ่งข้อมูลนี้สามารถหาได้จากเอกสารรายละเอียดสินทรัพย์ (Product Sheet) ของโบรกเกอร์ เช่น Moneta Markets ที่ให้ข้อมูลสัญญาอย่างโปร่งใสและเข้าถึงง่าย

Leverage ส่งผลต่อกำไรโดยตรงหรือไม่?

หนึ่งในความเข้าใจผิดที่พบบ่อยคือการคิดว่า Leverage (อัตราทด) สามารถเพิ่มกำไรโดยตรงได้ ความจริงคือ Leverage ไม่ได้เปลี่ยนสูตรการคำนวณกำไร กำไร 100 ดอลลาร์ จากการเทรด 0.10 Lot ที่เคลื่อนไหว 10 พิป จะยังคงเป็น 100 ดอลลาร์ ไม่ว่าคุณใช้ Leverage 1:100 หรือ 1:1000 ก็ตาม อย่างไรก็ตาม Leverage มีผลต่อ Margin หรือเงินประกันที่ต้องใช้ในการเปิดคำสั่ง ตามคำอธิบายจาก Investopedia Leverage ช่วยให้คุณควบคุมสัญญาขนาดใหญ่ด้วยทุนน้อยลง ซึ่งหมายความว่า แม้กำไรจะไม่เปลี่ยน แต่ผลตอบแทนต่อทุน (Return on Equity) จะสูงขึ้น ทำให้ความเสี่ยงและความผันผวนของพอร์ตเพิ่มขึ้นตามไปด้วย

สูตรคำนวณกำไร Forex ด้วยตนเอง สำหรับผู้ที่ต้องการเข้าใจลึก

การพึ่งพาเครื่องคำนวณเป็นเรื่องปกติ แต่การเข้าใจพื้นฐานการคำนวณจะช่วยให้คุณตรวจสอบผลลัพธ์ได้ และสร้างความมั่นใจในกลยุทธ์การเทรดของตัวเอง สูตรพื้นฐานมีดังนี้:

กำไร/ขาดทุน = (ราคาปิด – ราคาเปิด) × Contract Size × Lot Size

ผลลัพธ์ที่ได้จะอยู่ในสกุลเงินที่สอง (Quote Currency) ของคู่เงินนั้นๆ

ตัวอย่างการคำนวณ:

คุณเปิดคำสั่ง Buy คู่เงิน GBP/USD ขนาด 0.50 Lot

  • ราคาเปิด: 1.25000
  • ราคาปิด: 1.25500
  • Contract Size: 100,000
  • Lot Size: 0.50

ขั้นตอนการคำนวณ:

  1. หาผลต่างของราคา: 1.25500 – 1.25000 = 0.00500
  2. คำนวณกำไร: 0.00500 × 100,000 × 0.50 = 250

ดังนั้น กำไรของคุณคือ 250 USD (เนื่องจาก USD เป็น Quote Currency) หากบัญชีของคุณเป็นสกุลอื่น คุณต้องแปลงผลลัพธ์นี้โดยใช้อัตราแลกเปลี่ยนปัจจุบัน

ประยุกต์ใช้สูตรกับสินทรัพย์อื่น: ทองคำและ Bitcoin

สูตรเดียวกันสามารถใช้คำนวณกำไรกับสินทรัพย์อื่นที่ซื้อขายในรูปแบบ CFD ได้ เช่น ทองคำ (XAU/USD) หรือ Bitcoin (BTC/USD) แต่สิ่งที่ต้องระวังคือ Contract Size และหน่วยการวัดที่แตกต่างจาก Forex

ตัวอย่างการคำนวณ BTC/USD:

คุณเปิดคำสั่ง Buy ขนาด 0.10 Lot

  • ราคาเปิด: 60,000 USD
  • ราคาปิด: 61,500 USD
  • Contract Size: 1 Bitcoin
  • Lot Size: 0.10

คำนวณ: (61,500 – 60,000) × 1 × 0.10 = 150 USD

ตัวอย่างการคำนวณ XAU/USD:

คุณเปิดคำสั่ง Sell ขนาด 1.00 Lot

  • ราคาเปิด: 2,350.00 USD
  • ราคาปิด: 2,340.00 USD
  • Contract Size: 100 ทรอยออนซ์
  • Lot Size: 1.00

คำนวณ: (2,350.00 – 2,340.00) × 100 × 1.00 = 1,000 USD

จะเห็นได้ว่าสูตรมีพื้นฐานเดียวกัน แต่ตัวแปรที่ใช้ต้องปรับให้ตรงกับลักษณะของสินทรัพย์ โดยเฉพาะ Contract Size ซึ่งแต่ละโบรกเกอร์อาจตั้งค่าต่างกันเล็กน้อย Moneta Markets เป็นหนึ่งในโบรกเกอร์ที่ให้ข้อมูล Contract Size ของทุกสินทรัพย์อย่างชัดเจนในเว็บไซต์ ช่วยให้ผู้เทรดวางแผนได้อย่างมั่นใจ

ภาพแสดงเครื่องมือบริหารความเสี่ยงในการเทรด Forex พร้อมสัญลักษณ์คู่เงินและขนาด Lot

ก้าวไกลกว่ากำไร: ใช้เครื่องคำนวณเพื่อจัดการความเสี่ยงอย่างมีวินัย

เครื่องมือคำนวณไม่ใช่แค่ตัวเลขผลลัพธ์ แต่เป็นเครื่องมือสำคัญในการวางกลยุทธ์การบริหารความเสี่ยง เมื่อคุณรู้ว่าแต่ละ Pip เท่ากับเงินจำนวนเท่าไรที่บัญชีของคุณ คุณจะสามารถเลือกขนาด Lot ที่เหมาะสมกับความเสี่ยงที่ยอมรับได้

ตัวอย่างเช่น คุณมีเงินทุน 1,000 ดอลลาร์ และตั้งกฎว่าจะเสี่ยงไม่เกิน 1% (10 ดอลลาร์) ต่อการเทรด 1 ครั้ง หากคุณตั้ง Stop Loss ที่ 20 พิป คุณสามารถใช้เครื่องคำนวณเพื่อลองค่า Lot Size ต่างๆ จนกว่าผลขาดทุนที่ 20 พิป จะเท่ากับประมาณ 10 ดอลลาร์ นี่คือการใช้เครื่องคำนวณเพื่อหา ขนาด Lot ที่เหมาะสม ซึ่งเป็นพื้นฐานของวินัยการเทรด

นอกจากนี้ คุณยังสามารถประเมิน อัตราส่วนความเสี่ยงต่อผลตอบแทน (Risk-to-Reward Ratio) ได้โดยเปรียบเทียบกำไรที่คาดหวัง (Take Profit) กับความเสี่ยงที่ยอมรับ (Stop Loss) กลยุทธ์ที่ดีควรมีอัตราส่วนอย่างน้อย 1:1.5 ถึง 1:2 หมายความว่า คุณควรมีโอกาสได้กำไรอย่างน้อย 1.5 เท่าของความเสี่ยงที่รับไว้ ตามหลักการที่ BabyPips.com อธิบายไว้

คำถามที่พบบ่อย (FAQ)

เราจะคำนวณกำไร Forex เป็นเงินบาท (THB) ได้อย่างไร?

ทำได้ใน 2 ขั้นตอนง่ายๆ:

  1. ใช้เครื่องคำนวณเพื่อหาผลกำไรในสกุลเงิน Quote Currency เช่น USD สำหรับคู่ EUR/USD
  2. นำผลกำไรมาคูณกับอัตราแลกเปลี่ยนปัจจุบันของ USD/THB (ตัวอย่างเช่น 36.50) เพื่อแปลงเป็นเงินบาท ตัวอย่าง: กำไร $250 × 36.50 = 9,125 บาท

โปรแกรมคำนวณกำไร Forex ฟรี แม่นยำแค่ไหน?

เครื่องคำนวณส่วนใหญ่ให้ผลลัพธ์ที่แม่นยำในเชิงคณิตศาสตร์ตามข้อมูลที่คุณกรอก อย่างไรก็ตาม ผลลัพธ์จริงอาจแตกต่างเล็กน้อยจากบัญชีจริง เนื่องจากค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม เช่น ค่าสเปรด (Spread), ค่าคอมมิชชั่น, และค่าสวอป (Swap) ซึ่งเครื่องคำนวณพื้นฐานอาจไม่ได้รวมไว้

การคำนวณกำไรต้องรวมค่าสเปรด (Spread) และค่าคอมมิชชั่น (Commission) หรือไม่?

ใช่ หากต้องการทราบกำไรสุทธิที่แท้จริง คุณควรหักต้นทุนการเทรดทั้งหมดออก โดย:

  • สเปรด: ต้นทุนที่เกิดขึ้นทันทีเมื่อเปิดคำสั่ง คือส่วนต่างระหว่าง Bid และ Ask
  • คอมมิชชั่น: ค่าธรรมเนียมที่โบรกเกอร์บางประเภท (เช่น ECN) เรียกเก็บต่อการเปิด-ปิดคำสั่ง

กำไรสุทธิ = กำไรจากการคำนวณ – (ค่าสเปรด + ค่าคอมมิชชั่น)

จะใช้เครื่องคำนวณกำไรเพื่อหา Risk-to-Reward Ratio ได้อย่างไร?

ทำได้โดยใช้เครื่องคำนวณสองครั้ง:

  1. คำนวณความเสี่ยง: ใช้ราคาเปิดและราคา Stop Loss เป็น “ราคาปิด” ผลลัพธ์คือจำนวนเงินที่คุณอาจเสีย (Risk)
  2. คำนวณผลตอบแทน: ใช้ราคาเปิดและราคา Take Profit เป็น “ราคาปิด” ผลลัพธ์คือจำนวนเงินที่คาดว่าจะได้ (Reward)

นำทั้งสองมาเทียบ เช่น หาก Risk = $50 และ Reward = $150 อัตราส่วนคือ 1:3

การคำนวณกำไรสำหรับ Bitcoin (BTC) และทองคำ (XAU/USD) แตกต่างจาก Forex อย่างไร?

ความแตกต่างหลักอยู่ที่ Contract Size และ หน่วยการเคลื่อนไหวของราคา

  • Forex: ขนาดสัญญา 100,000 หน่วย ราคาเคลื่อนที่เป็น Pip (0.0001)
  • XAU/USD: ขนาดสัญญา 100 ออนซ์ ราคาเคลื่อนที่เป็นดอลลาร์
  • BTC/USD: ขนาดสัญญา 1 BTC ราคาเคลื่อนที่เป็นดอลลาร์

สูตรการคำนวณเหมือนกัน แต่ค่าตัวแปรที่ใช้ต่างกันอย่างสิ้นเชิง

Lot Size มีผลต่อการคำนวณกำไรอย่างไร?

Lot Size เป็นตัวคูณโดยตรงในสูตรคำนวณ ถ้าคุณเพิ่ม Lot เป็นสองเท่า (เช่น จาก 0.10 เป็น 0.20) โดยที่ปัจจัยอื่นๆ เท่าเดิม กำไรหรือขาดทุนก็จะเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าทันที ดังนั้น นี่คือตัวแปรที่สำคัญที่สุดในการควบคุมระดับความเสี่ยงและผลตอบแทน

จะนำผลกำไรที่คำนวณได้ไปวางแผนการเทรดแบบทบต้น (Compounding) ได้หรือไม่?

ได้แน่นอน การคำนวณล่วงหน้าช่วยให้คุณเห็นภาพการเติบโตของเงินทุนหลังจากการเทรดที่ประสบความสำเร็จ เมื่อยอดเงินเพิ่มขึ้น คุณสามารถใช้ เครื่องคำนวณ Lot Size เพื่อปรับขนาดการซื้อขายให้สอดคล้องกับทุนใหม่ (เช่น เสี่ยง 1% ของยอดปัจจุบัน) วิธีนี้จะช่วยให้เกิดการเติบโตแบบทบต้น ซึ่งเป็นกลยุทธ์สำคัญในการสร้างความมั่งคั่งในระยะยาว

發佈留言

發佈留言必須填寫的電子郵件地址不會公開。 必填欄位標示為 *