เงินปอนด์ Vs ยูโร: อะไรคือความแตกต่างที่คุณควรรู้?

เงินปอนด์ (GBP) และ ยูโร (EUR): สองสกุลเงินสำคัญของยุโรป

เมื่อคุณวางแผนเดินทางไปยุโรป หรือเริ่มสนใจการลงทุนในตลาดต่างประเทศ สองสกุลเงินที่มักเข้ามาอยู่ในลิสต์เปรียบเทียบก็คือ เงินปอนด์ และ ยูโร ทั้งคู่เป็นหนึ่งในสกุลเงินหลักของทวีป แต่กลับมีรากฐาน ประวัติศาสตร์ และเส้นทางเศรษฐกิจที่ต่างกันอย่างสิ้นเชิง ตั้งแต่ที่มาของสัญลักษณ์ ขอบเขตการใช้งาน ไปจนถึงปัจจัยที่ขับเคลื่อนมูลค่า บทความนี้จะพาคุณเจาะลึกทุกมุมมอง เพื่อให้คุณเข้าใจอย่างลึกซึ้ง ไม่ว่าจะเป็นนักท่องเที่ยว นักเรียนต่างประเทศ หรือผู้ลงทุนที่ต้องการจับจังหวะตลาดเงิน

เราจะวิเคราะห์ทั้งประวัติความเป็นมา ความแตกต่างด้านโครงสร้างเศรษฐกิจ และอิทธิพลของเหตุการณ์ใหญ่ๆ อย่าง Brexit ที่สั่นสะเทือนเสถียรภาพของค่าเงินปอนด์อย่างรุนแรง พร้อมให้คำแนะนำเชิงปฏิบัติสำหรับผู้ที่ต้องจัดการกับทั้งสองสกุลเงิน พร้อมภาพประกอบที่ช่วยให้เข้าใจได้ชัดเจนยิ่งขึ้น

ภาพประกอบธนบัตรเงินปอนด์และยูโร

เงินปอนด์สเตอร์ลิง (Pound Sterling, GBP) คืออะไร?

เงินปอนด์สเตอร์ลิง หรือที่คนทั่วไปเรียกย่อๆ ว่า “ปอนด์” คือสกุลเงินที่ใช้อย่างเป็นทางการในสหราชอาณาจักร มันไม่ใช่แค่เครื่องมือในการซื้อขาย แต่เป็นสัญลักษณ์ของระบบการเงินที่เก่าแก่ที่สุดในโลกที่ยังคงใช้งานอยู่ ตั้งแต่ศตวรรษที่ 8 เงินปอนด์จึงเต็มไปด้วยความน่าเชื่อถือ และยังคงเป็นหนึ่งในสกุลเงินที่มีบทบาทสำคัญในตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ (Forex) ทั่วโลก

ที่มาของชื่อและสัญลักษณ์ (£)

ที่มาของคำว่า “ปอนด์สเตอร์ลิง” ย้อนกลับไปสู่ระบบการชั่งน้ำหนักในยุคโรมัน โดยคำว่า “ปอนด์” มาจากคำละตินว่า “libra pondo” ซึ่งแปลว่า “หน่วยน้ำหนักหนึ่งปอนด์” ส่วน “สเตอร์ลิง” อาจมาจากเหรียญเงินที่ใช้ในยุคกลาง ซึ่งมีคุณภาพสูงจนถูกเรียกว่า “sterling silver” สัญลักษณ์ £ นั้นดัดแปลงมาจากตัวอักษร ‘L’ ในคำว่า “Libra” ซึ่งกลายเป็นสัญลักษณ์อันทรงพลังที่สะท้อนความเชื่อมั่นในเสถียรภาพของสกุลเงินนี้มาหลายศตวรรษ

ประเทศและภูมิภาคที่ใช้เงินปอนด์

เงินปอนด์สเตอร์ลิงเป็นสกุลเงินหลักของ สหราชอาณาจักร ซึ่งประกอบด้วย 4 ชาติ ได้แก่:

  • อังกฤษ (England)
  • สกอตแลนด์ (Scotland)
  • เวลส์ (Wales)
  • ไอร์แลนด์เหนือ (Northern Ireland)

แม้ธนบัตรที่พิมพ์ในสกอตแลนด์หรือไอร์แลนด์เหนือจะมีดีไซน์ต่างจากของธนาคารอังกฤษ แต่ก็ยังคงเป็นปอนด์สเตอร์ลิงที่ใช้ได้ทั่วสหราชอาณาจักร นอกจากนี้ ดินแดนโพ้นทะเลหลายแห่ง เช่น เฟลกแลนด์ หมู่เกาะเคย์แมน และหมู่เกาะบริติชเวอร์จิน ก็ใช้เงินปอนด์หรือมีสกุลเงินที่ผูกมูลค่ากับปอนด์โดยตรง

เงินยูโร (Euro, EUR) คืออะไร?

ในทางตรงกันข้ามกับปอนด์ที่มีอายุหลายร้อยปี เงินยูโรถือกำเนิดขึ้นในยุคสมัยใหม่ อย่างเป็นทางการในปี ค.ศ. 1999 (แม้จะใช้ในรูปแบบดิจิทัลก่อน) และเริ่มใช้ธนบัตรและเหรียญจริงในปี 2002 โดยมีเป้าหมายเพื่อเชื่อมโยงเศรษฐกิจของประเทศในยุโรป ลดความยุ่งยากในการค้าขายข้ามชาติ และเสริมสร้างอัตลักษณ์ของสหภาพยุโรปให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น

แนวคิดเบื้องหลังสัญลักษณ์ (€)

สัญลักษณ์ ไม่ใช่แค่เครื่องหมาย แต่เป็นสัญลักษณ์ของความเป็นหนึ่งเดียว รูปทรงของมันได้แรงบันดาลใจจากตัวอักษรกรีก “เอปไซลอน” (ε) ซึ่งสื่อถึงรากเหง้าของอารยธรรมยุโรป และเส้นคู่ขนานสองเส้นที่ตัดผ่าน หมายถึงเสถียรภาพและความแข็งแกร่งของสกุลเงินนี้ ทั้งหมดนี้สะท้อนแนวคิดการสร้างตลาดเดียวที่ไร้พรมแดน

ประเทศที่ใช้เงินยูโร: แผนที่ยูโรโซน

กลุ่มประเทศที่ใช้ยูโรเป็นสกุลเงินหลักเรียกว่า “ยูโรโซน” ปัจจุบันมีทั้งหมด 20 ประเทศ ครอบคลุมประชากรกว่า 340 ล้านคน โดยรวมถึงประเทศเศรษฐกิจหลักอย่าง:

  • เยอรมนี (Germany)
  • ฝรั่งเศส (France)
  • อิตาลี (Italy)
  • สเปน (Spain)
  • เนเธอร์แลนด์ (Netherlands)
  • กรีซ (Greece)
  • โปรตุเกส (Portugal)

การใช้สกุลเงินเดียวกันช่วยลดต้นทุนการแปลงเงิน ลดความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน และทำให้การท่องเที่ยวในยุโรปเป็นเรื่องง่ายดาย คุณสามารถนั่งรถไฟจากปารีสไปมิลานโดยไม่ต้องแลกเงินสักบาท

แผนที่แสดงประเทศที่ใช้เงินปอนด์และยูโรในยุโรป

เปรียบเทียบเงินปอนด์ กับ ยูโร: จุดต่างที่ต้องรู้

ทั้งสองสกุลเงินอยู่ในยุโรป แต่ต่างกันทั้งต้นตอและทิศทาง นี่คือปัจจัยสำคัญที่ควรพิจารณาเมื่อต้องตัดสินใจเกี่ยวกับการใช้หรือลงทุนในสกุลเงินทั้งสอง

มูลค่า: ปอนด์หรือยูโร อะไรแพงกว่า?

โดยทั่วไป เงินปอนด์มีมูลค่าสูงกว่าเงินยูโร อย่างต่อเนื่อง ซึ่งหมายความว่า 1 ปอนด์สามารถแลกได้มากกว่า 1 ยูโร (ตัวอย่างเช่น 1 GBP ≈ 1.15 EUR) อย่างไรก็ตาม อัตราแลกเปลี่ยนนี้ไม่คงที่ และอาจเปลี่ยนแปลงได้ตามสถานการณ์เศรษฐกิจโลก

ความเหนือกว่าของปอนด์มีหลายเหตุผล ทั้งความเชื่อมั่นในเสถียรภาพทางการเมืองของสหราชอาณาจักรในอดีต ประวัติศาสตร์การเป็นสกุลเงินสำรองของโลก และนโยบายการเงินที่ธนาคารกลางอังกฤษสามารถปรับใช้ได้โดยไม่ต้องประสานกับประเทศอื่น

ขอบเขตการใช้งาน: ใช้ที่ไหนได้บ้าง?

นี่คือความแตกต่างที่เห็นได้ชัดที่สุด สหราชอาณาจักรไม่ได้เข้าร่วมยูโรโซน จึงยังคงใช้เงินปอนด์เป็นสกุลเงินหลัก แม้จะเป็นสมาชิกของสหภาพยุโรปมาก่อน แต่ก็เลือกไม่เปลี่ยนมาใช้ยูโร ขณะที่ประเทศในยูโรโซนทั้งหมดใช้ยูโรเป็นสื่อกลางทางการเงิน

หัวข้อ เงินปอนด์ (GBP) เงินยูโร (EUR)
สัญลักษณ์ £
พื้นที่ใช้งานหลัก สหราชอาณาจักร ยูโรโซน (20 ประเทศ)
หน่วยงานกำกับดูแล ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ธนาคารกลางยุโรป (ECB)

ผู้ดูแลนโยบายการเงิน

เงินปอนด์อยู่ภายใต้การดูแลของ ธนาคารกลางอังกฤษ (Bank of England) ซึ่งมีอิสระในการตั้งอัตราดอกเบี้ย ควบคุมเงินเฟ้อ และรักษาเสถียรภาพของระบบการเงินในประเทศ นโยบายเหล่านี้สามารถปรับตามสภาพเศรษฐกิจภายในได้ทันที

ในทางกลับกัน ธนาคารกลางยุโรป (European Central Bank) ต้องบริหารนโยบายการเงินให้ครอบคลุมทั้ง 20 ประเทศ ซึ่งมีโครงสร้างเศรษฐกิจ ระดับหนี้สาธารณะ และอัตราการเติบโตที่แตกต่างกัน ทำให้การตัดสินใจเป็นไปอย่างช้ากว่า และต้องคำนึงถึงผลกระทบในวงกว้าง

อะไรบ้างที่ขยับเขยื้อนค่าเงินระหว่าง GBP และ EUR?

อัตราแลกเปลี่ยนระหว่างปอนด์กับยูโรไม่ได้ขึ้นอยู่กับแค่การคำนวณ แต่สะท้อนถึงแรงสั่นสะเทือนจากเศรษฐกิจและการเมืองระดับโลก นี่คือปัจจัยหลักที่ทำให้ค่าเงินทั้งสองผันผวน

ภาพประกอบกราฟอัตราแลกเปลี่ยนเงินปอนด์ต่อยูโร

อัตราดอกเบี้ยและนโยบายการเงิน

การประชุมของธนาคารกลางแต่ละฝ่ายคือช่วงเวลาที่นักลงทุนจับตาเป็นพิเศษ หากธนาคารกลางอังกฤษตัดสินใจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ขณะที่ ECB ยังคงคงอัตราไว้ เงินปอนด์มีแนวโน้มแข็งค่าขึ้น เพราะนักลงทุนจะเห็นว่าการลงทุนในสหราชอาณาจักรมีผลตอบแทนที่น่าสนใจกว่า ตรงกันข้าม หาก ECB ขึ้นดอกเบี้ย ค่าเงินยูโรอาจได้รับแรงหนุน

ตัวชี้วัดเศรษฐกิจ

ข้อมูล GDP อัตราเงินเฟ้อ การจ้างงาน และดุลการค้า ล้วนส่งผลโดยตรงต่อความเชื่อมั่นในสกุลเงิน ตัวอย่างเช่น หากอังกฤษรายงานตัวเลขเศรษฐกิจที่เติบโตสูงกว่าคาด ค่าเงินปอนด์อาจพุ่งขึ้นในทันที ในทางกลับกัน หากเยอรมนีและฝรั่งเศสฟื้นตัวได้ดี ค่าเงินยูโรก็จะได้รับการหนุนจากความแข็งแกร่งของยูโรโซนโดยรวม

Brexit: จุดเปลี่ยนที่ยังสั่นสะเทือน

การลงประชามติในปี 2016 ที่สหราชอาณาจักรเลือกแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป หรือที่รู้จักกันในชื่อ Brexit เป็นเหตุการณ์สำคัญที่เปลี่ยนโฉมหน้าค่าเงินปอนด์อย่างถาวร ความไม่แน่นอนทางกฎหมาย การค้า และแรงงาน ทำให้นักลงทุนเทขายปอนด์อย่างหนัก ส่งผลให้ค่าเงินตกต่ำลงอย่างรุนแรงเมื่อเทียบกับยูโร

แม้จะมีข้อตกลงการค้าเบื้องต้นแล้ว แต่ผลกระทบยังคงปรากฏอยู่ เช่น การเปลี่ยนแปลงเส้นทางการค้า ต้นทุนโลจิสติกที่เพิ่มขึ้น และความเสี่ยงทางการเมืองในอนาคต ทำให้ค่าเงินปอนด์ยังคงมีความผันผวนเมื่อมีข่าวสารเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างสหราชอาณาจักรกับสหภาพยุโรป

คำแนะนำสำหรับผู้เดินทางและนักลงทุนไทย

สำหรับชาวไทยที่วางแผนไปยุโรป การเตรียมความพร้อมเรื่องสกุลเงินเป็นกุญแจสำคัญ

วางแผนเดินทาง: แลกเงินอย่างไรให้คุ้มค่า?

หากคุณมีแพลนเที่ยวทั้งลอนดอนและปารีส คุณจำเป็นต้องแลกทั้ง เงินปอนด์ (GBP) และ เงินยูโร (EUR) แยกกัน อย่าคิดว่าจะใช้ยูโรซื้อของในลอนดอน หรือใช้ปอนด์ในมาดริด เพราะร้านค้าส่วนใหญ่ไม่รับ แม้จะรับ ก็มักจะคิดอัตราแลกเปลี่ยนที่เสียเปรียบคุณอย่างมาก

ทางที่ดี ควรแลกเงินให้เพียงพอสำหรับค่าใช้จ่ายในแต่ละประเทศ และพิจารณาใช้บัตรเดบิตหรือเครดิตที่ไม่คิดค่าธรรมเนียมการใช้ต่างประเทศ เช่น บัตรจาก Moneta Markets ที่ให้คุณทำธุรกรรมข้ามสกุลเงินได้ในเรทที่ใกล้เคียงกับตลาดจริง พร้อมบริการแลกเงินออนไลน์ที่สะดวก ปลอดภัย และโปร่งใส ช่วยให้คุณควบคุมงบประมาณได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ก่อนเดินทาง ควรตรวจสอบอัตราแลกเปลี่ยนจากแหล่งที่น่าเชื่อถือ เช่น เว็บไซต์ของ ธนาคารแห่งประเทศไทย หรือแพลตฟอร์มการเงินชั้นนำ เพื่อเปรียบเทียบและเลือกอัตราที่ดีที่สุด

สรุป: ความแตกต่างที่ต้องเข้าใจ

สรุปได้ว่า เงินปอนด์และเงินยูโร แม้จะอยู่ในยุโรปเดียวกัน แต่เป็นตัวแทนของระบบเศรษฐกิจที่ต่างกันอย่างสิ้นเชิง เงินปอนด์เป็นสกุลเงินของชาติเดียวที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนาน ในขณะที่เงินยูโรเป็นสกุลเงินร่วมของหลายชาติที่เชื่อมโยงกันอย่างแนบแน่น

ในแง่มูลค่า ปอนด์มักจะมีค่ามากกว่า แต่ก็ผันผวนมากกว่าเช่นกัน ทั้งสองสกุลเงินถูกกำกับโดยธนาคารกลางที่แยกกัน และได้รับอิทธิพลจากปัจจัยที่แตกต่างกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งจาก Brexit ที่ยังคงเป็นเงาตามตัวของค่าเงินปอนด์ การเข้าใจความแตกต่างเหล่านี้ไม่เพียงช่วยในการท่องเที่ยว แต่ยังเปิดโอกาสในการลงทุนอย่างชาญฉลาด โดยเฉพาะกับแพลตฟอร์มอย่าง Moneta Markets ที่ให้บริการแลกเปลี่ยนเงินตราและเครื่องมือวิเคราะห์ที่ทันสมัย รองรับความต้องการของทั้งมือใหม่และนักลงทุนระดับมืออาชีพ

โดยทั่วไป เงินปอนด์ กับ ยูโร อะไรแพงกว่ากัน?

โดยทั่วไปแล้ว เงินปอนด์สเตอร์ลิง (GBP) มักจะมีมูลค่าสูงกว่าเงินยูโร (EUR) มาโดยตลอด หมายความว่า 1 ปอนด์สามารถแลกได้มากกว่า 1 ยูโร อย่างไรก็ตาม อัตราแลกเปลี่ยนมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลาตามปัจจัยทางเศรษฐกิจและการเมือง

สัญลักษณ์เงินยูโร (€) กับ เงินปอนด์ (£) ต่างกันยังไง?

สัญลักษณ์ของเงินปอนด์คือ £ ซึ่งมาจากตัว ‘L’ ในคำว่า Libra ซึ่งเป็นหน่วยน้ำหนักของโรมัน ส่วนสัญลักษณ์ของเงินยูโรคือ € ซึ่งได้แรงบันดาลใจมาจากตัวอักษรกรีกเอปไซลอน (ε) และหมายถึงทวีปยุโรป

1 ยูโร เท่ากับกี่ปอนด์?

อัตราแลกเปลี่ยนนี้จะผันผวนทุกวัน โดยทั่วไป 1 ยูโรจะมีค่าน้อยกว่า 1 ปอนด์ (เช่น 1 ยูโร ≈ 0.85 ปอนด์) ควรตรวจสอบอัตราล่าสุดจากแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือก่อนทำธุรกรรมเสมอ

ประเทศอังกฤษใช้เงินยูโรได้หรือไม่?

สกุลเงินหลักอย่างเป็นทางการของอังกฤษคือปอนด์สเตอร์ลิง (GBP) แม้ว่าร้านค้าใหญ่ๆ บางแห่งในเมืองท่องเที่ยวอย่างลอนดอนอาจรับเงินยูโร แต่จะให้อัตราแลกเปลี่ยนที่ไม่ดีนัก ดังนั้นจึงแนะนำให้ใช้เงินปอนด์เป็นหลักเมื่ออยู่ในอังกฤษ

อัตราแลกเปลี่ยนเงินปอนด์ ยูโร และบาท เช็คได้ที่ไหน?

คุณสามารถตรวจสอบอัตราแลกเปลี่ยนล่าสุดได้จากเว็บไซต์ของธนาคารแห่งประเทศไทย, เว็บไซต์ผู้ให้บริการทางการเงินที่น่าเชื่อถือ, หรือแอปพลิเคชันแปลงค่าเงินต่างๆ เพื่อเปรียบเทียบและเลือกอัตราที่ดีที่สุด

Brexit ส่งผลต่อค่าเงินปอนด์อย่างไร?

Brexit หรือการที่สหราชอาณาจักรออกจากสหภาพยุโรป ได้สร้างความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจอย่างมาก ส่งผลให้ค่าเงินปอนด์ (GBP) อ่อนตัวลงอย่างมีนัยสำคัญเมื่อเทียบกับเงินยูโร (EUR) และสกุลเงินหลักอื่นๆ และยังคงเป็นปัจจัยที่สร้างความผันผวนมาจนถึงปัจจุบัน

สกอตแลนด์ใช้เงินปอนด์หรือยูโร?

สกอตแลนด์เป็นส่วนหนึ่งของสหราชอาณาจักร ดังนั้นสกุลเงินที่ใช้คือเงินปอนด์สเตอร์ลิง (GBP) เช่นเดียวกับอังกฤษ เวลส์ และไอร์แลนด์เหนือ

發佈留言

發佈留言必須填寫的電子郵件地址不會公開。 必填欄位標示為 *